ที่เมืองอุระโฮโระทางภาคเหนือของประเทศญี่ปุ่นได้มีการบริจาคสิ่งของต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันในช่วงการเกิดโรคระบาดใหญ่ของโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นรายการอาหารที่ซื้อกลับบ้าน แผนที่เดินทางไปร่วมงานศพ หรือใบปลิวเพื่อยกเลิกการเฉลิมฉลองเทศกาลฤดูร้อนต่าง ๆ ในท้องถิ่นให้แก่พิพิธภัณฑ์
เมืองเล็กๆ ที่มีประชากรเพียง 4,500 คนแห่งนี้ไม่มีแม้แต่โรงภาพยนตร์ แต่ภัณฑารักษ์ Makoto Mochida กำลังทำให้เมืองนี้มีสถานที่ที่สามารถบอกคนรุ่นหลังได้ว่าการใช้ชีวิตในช่วงเวลาของโควิด-19 นั้นเป็นอย่างไรบ้าง เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม หรือความหวาดกลัวของสาธารณชนที่มีต่อการแพร่ระบาดของโรคนี้
ภัณฑารักษ์ Mochida ได้เลือกสิ่งของที่จะจัดวางในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งตัวเขาเองรู้สึกประทับใจกับการที่สิ่งต่าง ๆ สามารถเชื่อมโยงกับชีวิตผู้คนได้ เขากล่าวว่า สิ่งของเหล่านี้จะช่วยบันทึกประวัติศาสตร์ได้อย่างดีเยี่ยม เช่น เอกสารมากมายที่แสดงให้เห็นถึงการที่เด็ก ๆ ต้องเริ่มเรียนออนไลน์และวิธีการทำหน้ากาก
เขาได้ส่งข่าวไปยังชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ ทำให้ตอนนี้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สามารถรวบรวมสิ่งของต่าง ๆ ได้หลายร้อยรายการแล้ว
หลังจากที่เกิดไข้หวัดสเปนในปี ค.ศ. 1918-19 จดหมายและบันทึกต่าง ๆ มีรายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตในช่วงวิกฤตสุขภาพช่วงนั้นที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 50 ล้านคน
คุณ Mochida กล่าวว่า ทุกวันนี้เอกสารและบันทึกต่าง ๆ เกือบสูญหายไปหมด และเอกสารในรูปแบบดิจิตัล เช่น อีเมล์ และข้อความตามสื่อสังคมออนไลน์ ก็ล้วนแต่กระจายอยู่ในโลกไซเบอร์ด้วยเช่นกัน
เขากล่าวว่ากำลังมีการวางแผนจัดงานครั้งใหญ่ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เพื่อแสดงผลงานสะสมที่มีมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการจัดแสดงของพิพิธภัณฑ์หลังจากเสร็จการแสดงเรื่องหน้ากากแล้ว
ในระยะแรกของการระบาด ผู้คนในญี่ปุ่นหาซื้อหน้ากากได้ยาก บางคนจึงทำหน้ากากด้วยมือจากเสื้อผ้าเก่า ๆ จากนั้นก็มีหน้ากากที่ผู้สวมใส่สามารถกินและดื่มได้ หรือมีหน้ากากที่ทำจากพลาสติกใส และในที่สุดตอนนี้หน้ากากก็กลายเป็นแฟชั่นไปแล้ว ซึ่งบางชิ้นมีการออกแบบที่ซับซ้อนด้วย
คุณ Shoko Maede เกิดที่เมืองอุระโฮโระ และทำงานเป็นแม่ครัวที่โรงเรียนสำหรับเด็กเล็ก เธอกล่าวว่า หลายปีต่อจากนี้ เธอจินตนาการได้เลยว่าผู้คนจะต้องดิ้นรนขวนขวายเพื่อที่จดจำให้ได้ว่า ชีวิตในช่วงที่เกิดโรคระบาดนั้นเป็นอย่างไรบ้าง