ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ชาวอิสราเอลในไทยพร้อมใจกลับบ้านหลังสงครามปะทุ


ชาบัด เฮาส์ ในกรุงเทพฯ ที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลที่มาเยือนเมืองหลวงประเทศไทย (ทอมมี วอล์คเกอร์/วีโอเอ)
ชาบัด เฮาส์ ในกรุงเทพฯ ที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลที่มาเยือนเมืองหลวงประเทศไทย (ทอมมี วอล์คเกอร์/วีโอเอ)

ชาบัด เฮาส์ สถานที่ชุมนุมพบปะของชาวยิวที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ไกลจากถนนข้าวสารที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้ต้อนรับชาวอิสราเอลที่มาเยือนประเทศไทยมายาวนานเกือบ 3 ทศวรรษ

แต่หลังจากสงครามอิสราเอล-ฮามาส ปะทุเมื่อ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ชาบัด เฮาส์ ที่เคยเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งการต้อนรับขับสู้กลับเปลี่ยนแปลงไป

แรบไบ เนชีเมีย วิลเฮล์ม (Rabbi Nechemia Wilhelm) ผู้อำนวยการของ ชาบัด เฮาส์ กล่าวว่าการโจมตีของกลุ่มฮามาสได้ทำให้ชาวอิสราเอลจำนวนมากเดินทางมาเยือนและขอความช่วยเหลือกันมากขึ้น

ผู้อำนวยการของ ชาบัด เฮาส์ กล่าวกับวีโอเอว่า “ทันทีที่ทุกคนได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอิสราเอล ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่เพื่อหาทางกลับบ้าน เพราะส่วนใหญ่พวกเขาเป็นทหารที่เพิ่งปลดประจำการจากกองทัพ พวกเขาต้องการกลับบ้านและปกป้องพี่น้องร่วมชาติ”

แรบไบ นิเชเมีย วิลเฮล์ม ผู้อำนวยการของ ชาบัด เฮาส์ ในกรุงเทพฯ (ทอมมี วอล์คเกอร์/วีโอเอ)
แรบไบ นิเชเมีย วิลเฮล์ม ผู้อำนวยการของ ชาบัด เฮาส์ ในกรุงเทพฯ (ทอมมี วอล์คเกอร์/วีโอเอ)

แรบไบ เนชีเมีย วิลเฮล์ม เสริมว่า “มันยากที่จะหาเที่ยวบินกลับไปแต่เราก็สามารถช่วยผู้คนจำนวนมากให้กลับไป ...(เจอ)ครอบครัวที่ถูกสังหาร มันเป็นเรื่องยากมาก ๆ ที่จะได้พบหน้าพวกเขา” และว่าในช่วงสัปดาห์นี้ได้ช่วยส่งคนกลับไปอิสราเอลกว่าสิบคน จากที่โดยปกติแล้ว เชื่อว่ามีคนอิสราเอลราว 2-3 พันคนเดินทางกลับอิสราเอลแล้ว

เมนี มาคาช ผู้จัดการชาบัด เฮาส์ ซึ่งเคยเป็นอดีตผู้บัญชาการกองทัพอิสราเอลมา 6 ปี กล่าวกับวีโอเอว่าต้องการกลับไปอิสราเอล แต่เขาไม่สามารถทำได้ “ผมหย่าร้างและมีลูกสาวอยู่ 2 คน .. ลูกสาวอยู่กับผมและเรียนหนังสือที่นี่ ถ้าตอนนี้ผมต้องกลับไป ผมรู้ว่ามันไม่แน่นอน 100% ว่าผมจะได้กลับมาอีก”

เที่ยวบินสู่อิสราเอล

แม้ว่าสายการบินนานาชาติจะยกเลิกเที่ยวบินไปยังอิสราเอลไป แต่เที่ยวบินตรงจากกรุงเทพไปเทล อาวีฟ ยังมีอยู่สำหรับสายการบินอิสราเอล แอล อัล (El Al) เพื่อช่วยชาวอิสราเอลให้เดินทางกลับบ้าน

เมื่อวันศุกร์ ออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย โพสต์ภาพผ่านสื่อสังคมออนไลน์ X หรือเดิมคือทวิตเตอร์ จากสนามบินสุวรรณภูมิ เผยให้เห็นชาวอิสราเอลหลายร้อยคนต่อคิวเพื่อขึ้นเครื่องกลับบ้าน

ออริ ที่ไม่ประสงค์เปิดเผยนามสกุลด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เป็นชาวอิสราเอลและอดีตนักศึกษาด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งมาพักผ่อนที่เวียดนามเมื่อสัปดาห์ก่อน กล่าวกับวีโอเอว่า “มันเป็นความรู้สึกที่ท่วมท้น เราต่างร้องไห้ คุณไม่มีทางสนุกได้เมื่อรู้ว่ามีสงครามที่บ้านเกิด แม้ว่าเราจะอยู่กันที่นี่(กรุงเทพฯ)ก็ตาม” และว่า “พอได้ยินข่าว ผมก็วิ่งกลับไปที่โรงแรมและพยายามติดต่อครอบครัว ... มันเครียดมาก ๆ เราร้องไห้กันหมด”

สำหรับออริ ซึ่งทำงานในอุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ในอิสราเอลก่อนจะเดินทางมาท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่าเมื่อได้กลับไปบ้าน เขารู้ได้ว่าจะมีภารกิจที่แตกต่างรออยู่ข้างหน้า “ทุกคนได้รับโทรศัพท์ ผมถูกเรียกตัวกลับบ้าน (ผมจะต้องเข้าร่วม)ในสงคราม แต่จะต้องทำอะไรบ้างนั้น ผมไม่รู้เลย”

พลเมืองชาวอิสราเอลทั้งชายและหญิงทุกคนจะต้องเป็นทหารเมื่ออายุถึง 18 ปี ชายอิสราเอลจะต้องรับใช้ชาติเป็นเวลา 32 เดือน ส่วนผู้หญิงอิสราเอลมีกำหนดเวลา 2 ปี

อาวี วัย 27 ปี ชาวอิสราเอลที่ปฏิเสธจะเปิดเผยชื่อนามสกุลเต็ม ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ในอิสราเอล ได้เดินทางมาท่องเที่ยวต่างประเทศและใช้เวลา 1 เดือนในเนปาล เธอเล่าให้วีโอเอฟังว่าเธอไม่ได้รับโทรศัพท์เรียกตัวกลับอิสราเอล แต่ก็ยืนยันที่จะกลับไปให้ได้ “เมื่อฉันเข้าใจว่าสิ่งนี้มันไม่เหมือนกับที่เคยเจอมาก่อน .. เราต่างเข้าใจดี เราต้องเดินทางกลับบ้านทันที”

อาวีกล่าวอีกว่า “คุณไม่จำเป็นต้องกลับบ้านตามกฎหมาย แต่ทุกคนก็กลับหมด คุณต้องไม่เงียบเฉย เพื่อนคุณทุกคนลุกขึ้นสู้หมด ทุกคนกลับบ้าน ฉันไม่มีหมายเรียกที่ให้กลับบ้าน แต่ฉันทำงานเป็นผู้ช่วยแพทย์ในชุมชนและโรงพยาบาลที่นั่น ดังนั้นฉันรู้ว่าฉันเป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง” และว่า “ครอบครัวของฉัน ... พี่ชายของฉัน พี่เขยของฉันทั้งหมด ลูกพี่ลูกน้องของฉันถูกเรียกตัวไปหมด ดังนั้นมีเด็กมีมากมายที่ต้องการการดูแล” เธอย้ำว่า “ทุกคนต้องการความช่วยเหลือ ทุกที่เลย”

ทั้งออรีและอาวี จองเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปเทล อาวีฟ สำหรับการเดินทางกลับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ กลุ่มในสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับชาวอิสราเอลในการหาทางกลับบ้านเช่นกัน ซึ่งโพสต์ส่วนใหญ่มีการหาทางซื้อตั๋วกลับบ้าน รวมทั้งมีการพูดถึง Order 8 หรือหมายเรียกตัวกลับไปรับใช้ชาติในยามสงคราม

แต่ไม่ใช่ชาวอิสราเอลทุกคนจะได้กลับบ้านกันง่าย ๆ

เอลัด ที่ไม่ประสงค์เผยนามสกุล เป็นนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนเกาะพงัน และอยู่ในประเทศไทย 53 วันแล้ว กล่าวกับวีโอเอว่า “ผมไม่คิดว่าจะมีเที่ยวบินปกติไปอิสราเอลในเร็ว ๆ นี้ และวีซ่าที่ต่ออายุในไทยกำลังจะหมดแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าจะต้องทำอย่างไร อาจจะต้องเดินทางไปเวียดนามก่อนในระยะนี้”

ข้อมูลจากสื่อในไทย ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวอิสราเอลขยายเวลาพำนักในไทยได้อีก 30 วันหากสถานการณ์ความขัดแย้งยืดเยื้อ

ภายใต้ภาวะสงครามในอิสราเอล ชาวอิสราเอลบางส่วนอาจต้องการหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับรัสเซีย ที่ส่งทหารรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ชาวรัสเซียนับพันเดินทางมายังประเทศไทยที่สงบสุขกว่า และหลายคนเลี่ยงหมายเรียกทหารของรัฐบาลมอสโกรวมทั้งผลกระทบจากมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจจากชาติตะวันตกที่บังคับใช้กับรัสเซียในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ไทยถือเป็นประเทศยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวอิสราเอล โดยมีนักท่องเที่ยวอิสราเอลมาท่องเที่ยวในไทยมากกว่า 159,000 คน ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ อ้างอิงจากข้อมูลของรัฐบาลไทย

  • ที่มา: วีโอเอ

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG