รัฐบาลอิสราเอลตกลงที่จะอนุมัติเงินช่วยเหลือให้เปล่าเป็นจำนวน 3,200 ล้านดอลลาร์ให้กับบริษัทอินเทล (Intel) เพื่อช่วยสร้างโรงงานแห่งใหม่มูลค่า 25,000 ล้านดอลลาร์ในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่อ้างคำยืนยันจากทั้งสองฝ่าย
ข่าวความคืบหน้าโครงการลงทุนจากต่างชาติที่ได้ชื่อว่าเป็นก้อนใหญ่ที่สุดเท่าที่อิสราเอลเคยได้รับมานี้มีออกมาขณะที่ กองทัพอิสราเอลยังเดินหน้าทำสงครามกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสอยู่
การลงทุนครั้งใหญ่ของบริษัทอเมริกันชั้นนำแห่งนี้ยิ่งเป็นเหมือนการแสดงจุดยืนอย่างเหนียวแน่นในการสนับสนุนอิสราเอล และยังแสดงให้เห็นถึงความใจกว้างของรัฐบาลอิสราเอล ในช่วงที่รัฐบาลกรุงวอชิงตันเริ่มกดดันให้มีการยกระดับความพยายามรักษาชีวิตพลเรือนในกาซ่าอยู่
หลังมีรายงานข่าวนี้ออกมา ราคาหลักทรัพย์ของอินเทลซึ่งจ้างงานในอิสราเอลเป็นสัดส่วนไม่ถึง 10% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดของตนที่มีอยู่ทั่วโลก เปิดซื้อขายในตลาดหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำ Nasdaq สูงขึ้น 2.73% ในวันอังคาร ก่อนจะปิดการซื้อขายในวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.21% ที่ 50.50 ดอลลาร์
อินเทลระบุในแถลงการณ์ว่า การขยายการลงทุนจากพื้นที่โรงงานผลิตชิปประมวลผลที่ดำเนินการอยู่ในอิสราเอล ในจุดที่ห่างจากฉนวนกาซ่าเพียง 42 กิโลเมตร เป็น “ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของแผนงานของอินเทลในการส่งเสริมความยืดหยุ่นในการฟื้นตัวของห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อม ๆ ไปการการเดินหน้าและการวางแผนการลงทุนในสายการผลิตในยุโรปและสหรัฐฯ ด้วย”
แดเนียล เบนาทาร์ รองประธานบริษัทอินเทล กล่าวว่า “แรงสนับสนุนจากรัฐบาลอิสราเอลจะ ... ทำให้มั่นใจได้ว่า อิสราเอลจะยังคงเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีและแรงงานของ[อุตสาหกรรม]เซมิคอนดักเตอร์ของโลกต่อไป”
ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา อินเทลเคยได้รับเงินช่วยเหลือให้เปล่าจากรัฐบาลอิสราเอลเป็นจำนวน 2,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการลงทุนในโรงงานอื่น ๆ ของตนในประเทศนี้
รอยเตอร์ระบุว่า นอกจากที่อิสราเอลแล้ว อินเทลยังมีแผนจะลงทุนเป็นเงินกว่า 33,000 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปอีก 2 แห่งในเมืองแมกเดเบิร์ก ของเยอรมนี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ทั่วยุโรปเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการผลิตชิป โดยรัฐบาลกรุงเบอร์ลินได้ประกาศจัดสรรงบสนับสนุนก้อนใหญ่เพื่อดึงดูดการลงทุนต่างชาติก้อนใหญ่ที่สุดเท่าที่ประเทศนี้เคยได้รับมาด้วย
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น