กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลเปิดเผยรายงานวิจัยที่พบว่า ผู้สูงอายุที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่สามของบริษัทไฟเซอร์ มีภูมิคุ้มกันโคโรนาไวรัสเพิ่มขึ้นมาก และลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยรุนแรงจากโควิด-19 ลงได้มาก
ผลการวิจัยดังกล่าวถูกนำเสนอในการประชุมของบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนในวันพฤหัสบดีที่แล้ว และเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลในวันอาทิตย์ โดยที่ยังไม่มีการเปิดเผยรายงานการศึกษาฉบับเต็ม
ก่อนหน้านี้ รายงานสถิติขององค์กรมัคคาบี หนึ่งในผู้บริการฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่สามในอิสราเอล เผยประสิทธิผลที่ใกล้เคียงกันของวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันเข็มที่สาม ในการป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา
รายงานของกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลจากสถาบันเกิร์ทเนอร์ (Gertner Institute) และสถาบันเคไอ (KI Institute) พบว่า ภูมิคุ้มกันของผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีซึ่งได้รับวัคซีนโควิดเข็มที่สามของไฟเซอร์ เพิ่มขึ้นมากกว่าผู้สูงอายุที่ได้รับวัคซีนแล้วสองเข็มถึง 4 เท่า หลังจากได้รับวัคซีนเข็มที่สามไปแล้ว 10 วัน
นอกจากนี้ วัคซีนโควิดเข็มที่สามยังช่วยลดความเสี่ยงของการป่วยหนักหรือการเข้าโรงพยาบาลเพราะโควิด-19 ลงได้ถึง 5-6 เท่า หลังจากได้รับวัคซีนเข็มที่สามไปแล้ว 10 วันเช่นกัน
อิสราเอลเริ่มฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิเข็มที่สามของบริษัทบริษัทไฟเซอร์ให้แก่ประชาชนที่อายุเกิน 60 ปี ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม หลังจากที่เป็นประเทศแรก ๆ ที่เริ่มฉีดเข็มแรกเมื่อปลายเดือนธันวาคม
และเมื่อวันพฤหัสดีที่แล้ว ทางการอิสราเอลได้ลดระดับอายุของผู้ที่สามารถรับวัคซีนเข็มที่สามลงเหลือมากกว่า 40 ปี รวมทั้งสตรีมีครรภ์ ครูและบุคลากรด้านสาธารณสุขที่อายุต่ำกว่า 40 ปีด้วย โดยผู้ที่จะฉีดวัคซีนเข็มที่สามได้ต้องฉีดวัคซีนเข็มที่สองมานานกว่า 5 เดือน
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เองเพิ่งประกาศโครงการฉีดวัคซีนเข็มที่สามของไฟเซอร์และโมเดอร์นา ให้แก่ชาวอเมริกันทุกคน เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนนี้ ขณะที่แคนาดา ฝรั่งเศส และเยอรมนี เริ่มประกาศโครงการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิ หรือ บูสเตอร์ช็อต แล้วเช่นกัน