รัฐบาลอิสราเอล ประกาศใช้มาตรการฉุกเฉิน ให้หน่วยงานความมั่นคงติดตามความเคลื่อนไหวของประชาชนผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ เพื่อหวังสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส
สภาอิสราเอลลงมติเห็นชอบให้บังคับใช้มาตรการตรวจสอบความเคลื่อนไหวออนไลน์ เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ผ่านมา และจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 30 วัน ซึ่งหากทางหน่วยความมั่นคงและหน่วยงานสาธารณสุขอิสราเอลมองว่าบุคคลนั้นเข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 จะส่งข้อความเตือนบุคคลดังกล่าว รวมทั้งส่งข้อความเตือนคนรอบข้างที่ใกล้ชิดหรือเกี่ยวข้องกับบุคคลนั้นด้วย
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนอิสราเอล ค้านว่ามาตรการนี้เป็นอันตรายต่อประชาชนมากกว่าปกป้อง เพราะมาตรการลักษณะนี้มีไว้ให้หน่วยข่าวกรองอิสราเอลติดตามตวามเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้าย ขณะที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอลมองว่า รัฐบาลยังต้องรักษาสมดุลระหว่างความจำเป็นเร่งด่วนด้านสาธารณสุขกับสิทธิมนุษยชนของชาวอิสราเอล
มาตรการติดตามความเคลื่อนไหวของประชาชนไม่ใช่เรื่องใหม่ในการกู้วิกฤตโควิด-19 เพราะก่อนหน้านี้ทั้งจีนและเกาหลีใต้ พื้นที่การระบาดของโคโรนาไวรัส ตอนนี้อิสราเอล มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 300 คน และมีมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส เช่น การปิดโรงเรียน ศูนย์การค้า ร้านอาหาร และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งจำกัดการอยู่รวมกันเกิน 10 คนในพื้นที่เดียวกัน
ส่วนที่อินเดีย ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่หลายแห่งในอินเดีย ใส่คำเตือนสถานการณ์โคโรนาไวรัสในประเทศ ความยาว 30 วินาที แทนเสียงเรียกเข้า หรือ ริงโทน เพื่อให้ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับโควิด-19 ทุกครั้งที่ติดต่อผ่านทางโทรศัพท์มือถือ อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่อินเดียจำนวนมากแสดงความไม่พอใจในระบบดังกล่าว เนื่องจากเสียงของระบบคำเตือนโคโรนาไวรัสนั้นเริ่มต้นด้วยเสียงไอ สร้างความรำคาญและกระอักกระอ่วนในการใช้งาน