อิหร่านเปิดเผยในวันพุธว่า จะกลับสู่การเจรจากับประเทศมหาอำนาจเพื่อหาทางออกเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน อาลี บาเกรี ซึ่งทำหน้าที่ผู้นำในการเจรจาด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน ระบุในทวิตเตอร์ว่า "เราตกลงเริ่มการเจรจาก่อนที่จะถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน และจะมีการประกาศวันที่แน่นอนตามมาในอีกสองสัปดาห์"
ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปและประเทศผู้นำโลก ต่างพยายามกดดันให้อิหร่านกลับสู่การเจรจาอีกครั้งตั้งแต่อิหร่านมีผู้นำคนใหม่ซึ่งมีนโยบายแข็งกร้าว คือ ประธานาธิบดีอีบราฮิม เรซี
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวเน้นย้ำว่า สหรัฐฯ ยินดีจะเริ่มการเจรจารอบใหม่หากอิหร่านรับปากว่าจะยึดมั่นกับความตกเลงเดิมที่ได้ทำไว้ และยุติการเสริมคุณภาพยูเรเนียมที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงของอาวุธนิวเคลียร์
จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการยืนยันเรื่องการเจรจารอบใหม่นี้จากทางประเทศมหาอำนาจผู้ร่วมจัดทำสนธิสัญญาว่าด้วยโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อปี ค.ศ. 2015 ซึ่งมุ่งควบคุมการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยประเทศที่ลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าวประกอบด้วย สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย จีน และสหภาพยุโรป
อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงนี้เมื่อปี ค.ศ. 2018 และกลับมาใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านอีกครั้ง โดยให้เหตุผลว่าเป็นสนธิสัญญาที่ไม่เข้มแข็งหนักแน่นพอในการควบคุมโครงการนิวเคลียร์ของกรุงเตหะราน
และเมื่อวันจันทร์ นายโรเบิร์ต มอลลีย์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ประจำอิหร่าน กล่าวเตือนว่า สหรัฐฯ มี "ทางเลือกอื่นที่ยังไม่เปิดเผย" หากอิหร่านยังคงดึงดันเดินหน้าพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป
- ข้อมูลบางส่วนจากรอยเตอร์ และเอเอฟพี