ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ตามคาด! Apple เข็น ‘iPhone X’ หวนคืนเจ้าแห่งสมาร์ทโฟนไฮเอนด์!


สิ้นสุดการรอคอยสำหรับการเปิดตัว iPhone X ที่สัญลักษณ์ X หมายถึง ten ที่สื่อถึงการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี ที่ iPhone รุ่นแรกได้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และครั้งนี้ถือเป็นการปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ในหลายมิติ ที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลายบริษัทพยายามไปให้ถึง แต่ Appleไปได้ไกลกว่า หลังปล่อยให้คู่แข่งแซงหน้าไปหลายขุม

โดยฟีเจอร์ใหม่ที่ iPhone X นำมาเปิดตัวก็มีทั้ง หน้าจอเต็มขอบแบบ edge to edge ด้วยความคมชัดระดับ OLED หรือที่เรียกว่า Super Retina Display ให้สีที่อิ่มและถึงอารมณ์กว่า รองรับวิดีโอแบบ 4K

ขณะที่ส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปอีกอย่าง คือ iPhone ไม่มีปุ่ม Home อีกต่อไป เช่นเดียวกับระบบปลดล็อคเครื่องแบบ Touch ID จะหายไปด้วย

เพราะนี่จะเป็น iPhone รุ่นแรกที่ใช้ระบบ Face ID ในการปลดล็อคเครื่องด้วยระบบจดจำใบหน้า 3 มิติประสิทธิภาพสูง จดจำตำแหน่งบนใบหน้าได้กว่า 1,000 จุด นอกจากจะช่วยปลดล็อคเครื่องแล้ว ยังพัฒนาต่อไปในระบบจ่ายเงิน Apple Pay ที่รวดเร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และใช้ได้ทุกสถานการณ์

ด้านกล้องหลัง 2 ตัวแบบ “แนวตั้ง” พร้อมระบบควบคุมการถ่ายภาพที่เสถียรขึ้น และมีมิติมากขึ้นกว่าเดิม รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ 4K ที่ละเอียดคมชัดสูงสุด กล้องหน้ารองรับ Portrait Mode และระบบ TrueDepth เพิ่มความลึกให้ภาพถ่ายเซลฟี่ พร้อมทั้งฟังก์ชันการถ่ายภาพแบบสตูดิโอ

อีกสิ่งใหม่ เห็นจะเป็น CPU A11 Bionic แบบ Hexa-core ประมวลผลเร็วกว่าเดิมจากรุ่นก่อน 25% และแบตเตอรีที่ทนทานกว่ารุ่นก่อนถึง 2 ชั่วโมง

และอีกหนึ่งอย่างที่จะปฏิวัติการแชทของคุณใน messenger คือ “Animoji” ที่จะทำให้ตุ๊กตาแสดงอารมณ์เคลื่อนไหวตามใบหน้าของเขาที่ขยับไปมาได้ และส่งเป็นสติ๊กเกอร์ในบทสนทนากับเพื่อนๆได้

แม้ว่าการเปิดตัวจะสร้างความฮือฮาได้มาก แต่ราคาหุ้น Apple กลับร่วงสวนทางกับการเปิดตัวที่น่าตื่นเต้นเสียได้ โดยราคาหุ้นลดลง 0.4% นับตั้งแต่เปิดการซื้อขายในวันอังคาร น่าจะมีส่วนมาจากข่าวรั่วที่ออกมาก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับสเปคเครื่องที่แทบจะไม่ต่างกับที่เปิดตัวจริง

ขณะที่ราคาที่แพงทะลุ 1 พันดอลลาร์ คือ Deal breaker ที่สำคัญ เพราะยังไม่มีสมาร์ทโฟนไฮเอนด์รุ่นไหน กล้าทำราคาเปิดเท่านี้มาก่อนในประวัติศาสตร์!และเมื่อเทียบกับ iPhone 8 และ 8 Plus ที่เปิดตัวในวันเดียวกันนี้ ทำให้เกิดข้อเปรียบเทียบด้านราคาค่อนข้างมาก

ที่สำคัญการเปิด Pre-order ที่ล่าช้ากว่าปกติ ที่ 27 ตุลาคม และรับเครื่องจริง 3 พฤศจิกายน อาจกระทบกับยอดขายของ iPhone ที่ตั้งเป้าว่าจะสูงถึง 20% ในปีนี้ได้

XS
SM
MD
LG