ผู้ที่สนับสนุนการตัดสินใจของ Apple ที่ไม่ต้องการให้ FBI ปลดล็อคโทรศัพท์ iPhone เตรียมชุมนุมประท้วงในมากกว่า 40 เมืองทั่วโลกในวันอังคารนี้ รวมทั้งที่สำนักงานใหญ่ของ FBI ในกรุงวอชิงตัน
กลุ่มที่ใช้ชื่อว่า "Fight for the Future" มีแผนจะชุมนุมตามร้าน Apple Store ในหลายประเทศ ทั้งในนครนิวยอร์ค นครซานฟรานซิสโก ฮ่องกง และกรุงลอนดอน เพื่อสนับสนุนให้มีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้สนันสนุน Apple เหล่านี้ระบุว่า หากรัฐบาลสหรัฐฯ สามารถชนะทางกฏหมายต่อ Apple ได้ iPhone เครื่องอื่นๆ ก็จะมีความเสี่ยงต่อการถูกเจาะข้อมูลเช่นกัน
กรณีการเห็นไม่ตรงกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและ Apple ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่หน่วยงานสืบสวนกลางสหรัฐฯหรือ FBI ต้องการให้ Apple ดึงข้อมูลจากสมาร์ทโฟนของนาย Syed Rizwan Farook ผู้ก่อเหตุยิงสังหารหมู่ เหยื่อ 14 รายที่นคร San Bernardino รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อเดือนธันวาคม
ซอฟแวร์ของ Apple ตั้งระบบความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ไว้อย่างรัดกุม กล่าวคือเมื่อใส่รหัสเข้าเครื่องผิด 10 ครั้ง ระบบปฏิบัติการ iOS จะลบข้อมูลในโทรศัพท์ทันที
หลังจากที่ได้รับคำขอร้องจาก FBI ซีอีโอ Apple Tim Cook ปฏิเสธที่จะทำตามข้อเรียกร้องโดยกล่าวว่า การกระทำเช่นนั้นจะสร้างบรรทัดฐานใหม่ที่กระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้จำนวนมาก ทั้งข้อมูลการเงิน สุขภาพ รูปถ่ายส่วนตัว และข้อมูลที่ระบุสถานที่ของผู้ใช้ iPhone
Tim Cook เสริมว่าเจ้าหน้าที่ของทางการสหรัฐฯเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า มี iPhone ที่ต้องการให้ iPhone ช่วยปลดล็อคหลายร้อยเครื่อง
เขากล่าวว่าจุดยืนของ Apple คือ การปลดล็อค iPhone เพื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เป็นเครื่องมือที่มีผลกว้างไกล และการการันตีไม่ให้เกิดการใช้เครื่องมือนี้ในทางที่ผิด ก็คือการไม่เปิดโอกาสให้มีการเริ่มต้นตั้งแต่แรก
ขณะเดียวกัน James Comey ผู้อำนวยการ FBI กล่าวว่ากรณีนี้ เป็นเรื่องของความยุติธรรมต่อเหยื่อของเหตุสังหารหมู่ เขาบอกว่าเรื่องความขัดแย้งกันระหว่างความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ไม่น่าจะเป็นประเด็นที่ถูกตัดสินโดยฝ่ายรัฐบาลหรือบริษัทเอกชน แต่คนอเมริกันควรมีส่วนร่วมในการหาทางออก
Tim Cook ซีอีโอ Apple กล่าวว่าควรมีการก่อตั้งคณะทำงานพิเศษที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ข่าวกรองและผู้เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยี รวมถึงผู้สันทัดกรณีเรื่องเสรีภาพส่วนบุคคล คณะทำงานนี้จะหารือในประเด็นต่างๆ เช่นการบังคับใช้กฎหมาย ความมั่นคงของชาติ และความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เทคโนโลยี และ Apple จะมีส่วนร่วมในกระบวนการดังกล่าว
ซีอีโอของ Apple ยังได้เขียนอีเมล์อธิบายถึงจุดยืนของบริษัทกับลูกจ้างด้วยว่า เรื่องนี้ไม่ใช่กรณีของ iPhone แต่เป็นประเด็นที่มีขอบข่ายกว้างขวางถึงความปลอดภัยด้านข้อมูลของผู้ใช้หลายร้อยล้านคน
ผู้บริหารสูงสุดของ Apple กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในด้านข้อมูล และให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของตนพร้อมที่จะให้คำแนะนำต่างๆกับเจ้าหน้าที่รัฐ
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนโดยทั่วไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ Pew Research หน่วยงานสำรวจความคิดเห็นประชาชน เปิดเผยในวันจันทร์ว่า ร้อยละ 51 ของผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 1000 คน เห็นว่า Apple ควรทำตามคำขอของ FBI ในการปลดล็อค iPhone ของนาย Syed Rizwan Farook ผู้ก่อเหตุยิงสังหารหมู่ และมีผู้เห็นด้วยกับ Apple ที่ขัดขืนคำขอร้องของ FBI ร้อยละ 38 เพราะเชื่อว่า หาก Apple ทำตามคำขอของ FBI ในที่สุดแล้วความปลอดภัยของผู้ใช้ iPhone โดยทั่วไปจะได้รับผลกระทบ
ในการทำสำรวจความคิดเห็นประชาชนในครั้งนี้ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 11 ไม่มีความเห็นเห็นทางใดทางหนึ่ง
