เมื่อพูดถึงรายการโทรทัศน์ กฎต่างๆ มักจะตรงไปตรงมาเสมอ คือจะมีผู้เขียนบทให้ผู้ชมได้รับชมรับฟัง แต่ในปัจจุบัน Interactive TV หรือรายการโทรทัศน์ที่สนองตอบกับคนดู เพื่อให้คนดูมีบทบาทสำคัญในการเดินเรื่อง
Andrew Wallenstein หัวหน้าบรรณาธิการนิตยสารบันเทิง Variety กล่าวว่าแทนที่รายการจะมีเนื้อหาเพียงทิศทางเดียว คุณสามารถเปลี่ยนแปลงการเดินเรื่องโดยการเลือกที่จะส่งเรื่องไปในทิศทางที่แตกต่างกัน
Alon Benari หัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟของ Eko กล่าวว่าพวกเขาได้พัฒนาแพลตฟอร์มที่ทำให้ผู้ชมสามารถโต้ตอบกับวิดีโอที่ชมอยู่ได้
ตัวอย่างเช่นเมื่อ จิล ตัวละครหญิงในรายการหนึ่งของ Eko ไปเจอผู้ชายคนหนึ่งในงานปาร์ตี้โดยบังเอิญ แต่จำชื่อของชายคนนั้นไม่ได้ และจำไม่ได้ด้วยว่าเคยเจอกันที่ไหน ผู้ชมก็จะสามารถเลือกทางออกให้แก่นักแสดงได้ 3 ทางเลือก
หัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟของ Eko บอกว่า คุณอาจจะได้เห็นผู้ชม 2 ประเภท คือผู้ชมที่เลือกทางเลือกว่า "เราเคยไปว่ายน้ำที่ชายหาด" เพราะพวกเขาพยายามช่วยให้นักแสดงประสบความสำเร็จ และมีผู้ชมที่เลือก "ทำเรื่องป่วนที่โบสถ์" เพราะพวกเขาเพียงต้องการที่จะดูว่าเรื่องนี้จะดำเนินไปอย่างเลวร้ายได้ถึงขนาดไหน
ผู้ให้การสนับสนุนรายการโทรทัศน์เชิงปฏิสัมพันธ์นี้กล่าวว่า รายการแบบนี้ก็คล้ายๆ กับการมีส่วนร่วมหรือควบคุมผู้เล่นในวิดีโอเกม แต่จะได้รับการตอบสนองจากคนดูหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครกำลังชมรายการอยู่ในขณะนั้น
Andrew Wallenstein คิดว่าคนดูที่ต้องการทดลองมีส่วนร่วมกับรายการจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
เขาบอกว่าแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น แต่เมื่อเห็น Netflix และ Walmart เริ่มจริงจังกับเรื่องนี้ ก็เป็นไปได้ว่าในอีก 2-3 ปีต่อจากนี้ Interactive TV อาจจะได้รับความนิยมท่วมท้นก็เป็นได้