ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ผลวิจัยชี้ 'โฆษณานมผงเชิงรุก' ลดความมั่นใจคุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเอง


China Infant Formula
China Infant Formula

การศึกษาขององค์การอนามัยโลก (WHO) และกองทุนเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) พบว่าการทำการตลาดเชิงรุกโดยบรรดาบริษัทนมผง ได้บ่อนทำลายความเชื่อมั่นของผู้หญิง และยังทำให้พวกเธอหมดกำลังใจที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อไป

เจ้าหน้าที่ได้ทำการสำรวจบรรดาคุณพ่อคุณแม่และสตรีมีครรภ์ราว 8,500 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 300 คนตามเมืองต่างๆ ใน 8 ประเทศ ในช่วงระยะเวลาสามปี รายงานเผยให้เห็นว่า บริษัทผู้ผลิตนมผงสำหรับทารกชั้นนำของโลกจำนวน 6 ราย มีส่วนร่วมในกลยุทธ์ทางการตลาดที่เป็นระบบและผิดจรรยาบรรณ โดยบริษัทเหล่านั้นละเลยต่อมาตรฐานสากลว่าด้วยการให้อาหารทารก

ไนเจล โรลลินส์ (Nigel Rollins) นักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก ซึ่งเป็นหัวหน้าการเขียนรายงาน กล่าวว่า พ่อแม่และสตรีมีครรภ์มากกว่าครึ่งรายงานว่าถูกกระหน่ำด้วยข้อความเกี่ยวกับประโยชน์ของนมผง เขาบอกกับวีโอเอว่า การกล่าวอ้างของอุตสาหกรรมนั้นทำให้เกิดความเข้าใจผิดและทำให้เกิดความไม่แน่ใจเกี่ยวกับข้อเท็จจริงทางด้านวิทยาศาสตร์อีกด้วย

เขากล่าวด้วยว่า มีตัวอย่างทางการตลาดมากมายที่มีการใช้คำศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ และมีการกล่าวอ้างทางวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ เช่น อ้างว่าจะช่วยพัฒนาสมอง พัฒนาการเติบโต และพัฒนาภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น แม้ในช่วงเวลาของการระบาดของโควิดก็ตาม

โรลลินส์ กล่าวว่า บรรดาพ่อแม่มือใหม่อาจจะมีปัญหาในการแยกแยะข้อเท็จจริงของคำกล่าวอ้างเพื่อการตลาดเหล่านั้น พวกเขาล้วนต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก ๆ ของตน และมักจะมีความเปราะบางต่อข้อความที่มีทีท่าว่าจะช่วยแก้ปัญหาในแต่ละวันได้

ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าวได้มีขึ้นในประเทศบังกลาเทศ จีน เม็กซิโก โมร็อกโค ไนจีเรีย แอฟริกาใต้ อังกฤษ และเวียดนาม ในประเทศเหล่านั้น ผู้หญิงที่ตอบแบบสำรวจระหว่าง 49 ถึง 98 เปอร์เซ็นต์ แสดงความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้นมแม่แก่ลูกของตนเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่าข้อความด้านการตลาดที่ทำให้มีการเข้าใจผิดนั้น ทำให้การให้นมแม่กลายเป็นเรื่องยาก ซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของสตรีในเรื่องความสามารถในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

การศึกษาของ WHO และ UNICEF ระบุว่า อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นน้อยมากในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา แต่ในช่วงเวลาเดียวกันยอดขายนมผงกลับเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว

โรลลินส์ กล่าวว่า ผลกระทบด้านสุขภาพของทารกและเด็กเล็กที่ไม่ได้ดื่มนมแม่นั้นเป็นเรื่องร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีรายได้น้อย

ทั้งนี้ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยป้องกันอัตราการเสียชีวิต นอกจากนี้ยังสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพตลอดชั่วชีวิต เช่น โรคอ้วนในเด็ก พัฒนาการของเด็ก และสุขภาพของมารดา ตลอดจนความเสี่ยงของโรคมะเร็ง ล้วนเป็นเรื่องจริงสำหรับทั้งเด็กและมารดาในสังคมทุก ๆ รูปแบบ

รายงานระบุด้วยว่า อุตสาหกรรมอาหารทารกใช้ของขวัญในการส่งเสริมการขาย นอกจากนี้ยังมีค่าคอมมิชชั่นจากการขาย และสิ่งจูงใจอื่น ๆ เพื่อจูงใจเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในทุกประเทศช่วยเกลี้ยกล่อมให้บรรดาคุณแม่มือใหม่ซื้อผลิตภัณฑ์ของตน

อย่างไรก็ตาม รายงานไม่ได้ระบุรายชื่อบริษัทผู้ผลิตนมผง แต่เพื่อเป็นการตอบรับต่อการศึกษานี้ บริษัทเนสท์เล่ ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตนมผงรายใหญ่ที่สุดของโลก บอกกับสื่อว่าทางบริษัทได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกอย่างเคร่งครัด และสมัครใจที่จะหยุดการส่งเสริมการให้นมผงแก่ทารกอายุ 0-6 เดือนทั่วโลก

WHO, UNICEF และพันธมิตรต่างเรียกร้องให้รัฐบาลใช้กฎหมายเพื่อยุติแนวทางปฏิบัติทางการตลาดที่มุ่งแสวงหาประโยชน์ และว่ากฎหมายเหล่านี้ต้องถูกนำมาบังคับใช้เพื่อให้แน่ใจว่าอุตสาหกรรมที่มีมูลค่า 55,000 ล้านดอลลาร์นี้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์สากลปี 1981 ว่าด้วยการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ทดแทนนมแม่

XS
SM
MD
LG