อุทยานแห่งชาติโคโมโดคือบ้านของเจ้ามังกรโคโมโดกว่า 2 พัน 5 ร้อยตัว ที่อาศัยรวมกันบนหมู่เกาะเล็กๆ มหาสมุทรแปซิฟิค ทางตะวันออกของประเทศอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปที่นั้นต้องอยู่ในความเงียบและต้องคอยระมัดวังเป็นพิเศษ แม้ในยามที่จะถ่ายรูปสัตว์เลื้อยคลานที่ได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อไม่ให้เกิดอาการตกใจ จนอาจเข้าทำร้ายได้ โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบนเกาะโคโมโดถือไม้เท้าคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ
หมู่เกาะโคโมโดคือสถานที่เพียงแห่งเดียวที่ผู้มาเยือนจะสามารถเห็นไดโนเสาร์ในโลกปัจจุบันที่มีชีวิตอยู่ในธรรมชาติ และรัฐบาลอินโดนีเซียกำลังพยายามนำเจ้าสัตว์หายากชนิดนี้ไปเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มากขึ้น
เอสที เรโก แอสตูตี้ (Esthy Roko Astuty) ผู้อำนวยการด้านการประชาสัมพันธ์ กระทรวงการท่องเที่ยวของอินโดนีเซีย กล่าวว่า หมู่เกาะโคโมโดยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักหากเทียบกับเกาะบาหลี และจากสถิติเมื่อปีที่ผ่านมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกว่า 7 ล้านคนที่เดินทางเข้าอินโดนีเซียส่วนใหญ่มีมุ่งตรงไปที่บาหลี ขณะที่มีเพียง 4 หมื่น 5 พันคนเท่านั้นที่ตะเกียกตะกายไปถึงอุทยานแห่งชาติโคโมโดที่อยู่ไกลออกมาทางตะวันออก ส่วนในปีนี้กระทรวงการท่องเที่ยวคาดหวังที่จะให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นอีกประมาณร้อยละ 20 และจะใช้จุดสนใจคือการเป็นสถานที่ที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก และล่าสุดได้รับการลงคะแนนให้เป็นหนึ่งในสถานที่ 28 แห่งในรายชื่อสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกยุคใหม่ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
ความน่าสนใจของเจ้ามังกรโคโมโด ถือเป็นสัตว์เลื้อยคลานหายาก บางตัวมีมีขนาดยาวกว่า 3 เมตร หนักกว่า 90 กิโลกรัม เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ว่ายน้ำได้ ขณะเดียวกันก็ปีนต้นไม้ได้ บางครั้งถึงแม้จะเชื่องแต่ในยามที่ออกล่าเหยื่อเพื่อหาอาหารก็น่ากลัวไม่น้อยเพราะมีจมูกในการตามกลิ่นที่ดีมาก //เจ้ามังกรยักษ์ชนิดนี้มีฟันขนาดเล็กแต่แหลมคม สามารถกินทุกอย่างที่ล่าได้แม้กระทั่งกระดูก
ขณะที่แอนดี เคฟี (Andi Kefi) ผู้จัดการด้านระบบนิเวศน์ ของอุทยานแห่งชาติโคโมโด กล่าวว่า ชายหาดที่ยังขาวสะอาดบนเกาะโคโมโด และความความสมบูรณ์ของผืนป่า น่าจะเพียงพอที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น และโครงการการพัฒนาต่างๆก็ควรจะต้องรักษาความสมดุลในระบบนิเวศน์ที่อาจจจะส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมอันละเอียดอ่อนบนเกาะโคโมโดด้วย
ผู้จัดการด้านระบบนิเวศน์ ของอุทยานแห่งชาติโคโมโดยังแสดงความเป็นกังวลกับการขาดแคลนอาหารบนเกาะที่อาจจะนำไปการแย่งอาหารกันระหว่างมังกรโคโมโดกับมนุษย์ ในอนาคต แต่ในเรื่องนี้ ชาวบ้านบนเกาะโคโมโด และลินซา บอกว่า พวกเราเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างสันติกับเจ้ามังกรยักษ์มานานแล้ว และต้องขอขอบคุณที่ทำให้พวกเขาได้เป็นส่วนหนึ่งหนึ่งของตำนานแห่งเจ้าหญิงมังกร นิทานท้องถิ่นที่ทำให้พวกเขาเคารพในผืนป่าและธรรมชาติมาตลอด
อาลี มูดาร์ ชาวประมงท้องถิ่นบอกว่าเขามองเห็นวิธีทำรายได้จากการท่องเที่ยวให้มากขึ้น ด้วยการแกะสลักไม้เป็นรูปมังกรโคโมโดขายให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย และเชื่อว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าก็จะมีผู้คนหน้าใหม่ๆเข้ามาบนเกาะนี้ และทำในแบบเดียวกัน
แต่สำหรับวันนี้ อาลีในฐานะชาวประมงบนเกาะที่อาศัยในสถานที่ที่เป็นบ้านของเจ้ามังกรยักษ์ ขอเลือกเพียงได้จับปลาขาย และคอยจับตาและอยู่ให้ห่างเจ้ามังกรโคโมโดไว้ ก่อนที่จะกลายเป็นอาหารสัตว์ขึ้นชื่อในเรื่องการกินทุกอย่างที่ขวางหน้าไว้จะดีกว่า