เสือโคร่งเป็นสัตว์ประจำชาติของอินเดียและภาพของเสือกลายเป็นสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวธรรมชาติและสัตว์ป่าของอินเดีย แต่ในขณะนี้ ศาลฎีกาอินเดียกำลังพิจารณาข้อเสนอห้ามการท่องเที่ยวชมเสือในรัฐมัธยประเทศซึ่งอยู่ตอนกลางของอินเดีย
คุณอะเจ ดูบี้ นักอนุรักษ์สังคมเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการผลักดันข้อเสนออนุรักษ์เสือโคร่งอินเดียจากการคุกคามของอุตสากรรมท่องเที่ยวนี้จนขึ้นไปสู่การพิจารณาของศาสฎีกา เขาให้เหตุผลว่าเสือโคร่งเป็นสัตว์ประจำชาติที่อินเดียต้องคุ้มครอง
คุณอะเจ ดูบี้ กล่าวว่า เสือโคร่งอินเดียเป็นเหยื่อของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ขาดความยั้งคิดจนทำให้จำนวนเสือลดลงอย่างต่อเนื่อง เขาบอกว่าหลายครั้งที่นักท่องเที่ยวเข้าไปชมเสือในเขตอนุรักษ์แล้วขาดความระมัดระวังทำให้เสือตกอยู่ในอันตราย นักท่องเที่ยวมักขับรถจี๊ปเข้าไปดูเสือให้ใกล้ที่สุดเท่าที่จะทำได้เป็นการรบกวนความเป็นอยู่ตามธรรมชาติของสัตว์ เขายกตัวอย่างเหตุการณ์เมื่อต้นปีที่ผ่านมาในรัฐมัธยประเทศ ที่รถของนักท่องเที่ยวชนเสือดาวตัวเมียตาย ทำให้ลูกเสือดาวอีกสองตัวตายตามไปด้วยเพราะขาดแม่
อินเดียมีเขตอนุรักษ์เสือโคร่งสี่สิบแห่งทั่วประเทศโดยหกแห่งอยู่ที่รัฐมัธยประเทศแต่มีจำนวนเสืออาศัยอยู่มากไม่ได้สัดส่วนกับพื้นที่ป่า แม้อินเดียมีกฏระเบียบที่ใช้เป็นแนวทางการอนุรักษ์เสือโคร่งแต่มีการตีความห้ามการก่อสร้างและกิจกรรมที่สร้างความเสียหายคล้ายๆกันในเขตอนุรักษ์เสือ มาตราการที่คุณอะเจ ดูบี้เสนอนี้เป็นการขยายตีความให้คลุมถึงการท่องเที่ยวด้วย
ทางด้านคุณอนุรัฐา มุทาการ์ ที่ปรึกษาด้านกฏหมายสมาคมผู้ประกอบการการท่องเที่ยวชมสัตว์ป่าและเสือโคร่งอินเดีย ไม่เห็นด้วยกับคุณอะเจ ดูบี้ เธอบอกว่ากฏระเบียบการอนุรักษ์เสือไม่ห้ามการท่องเที่ยวแนวนี้และไม่ควรปรับเปลี่ยนเพราะการท่องเที่ยวชมเสือไม่ได้เป็นโทษต่อการอนุรักษ์เสือ
คุณเบลลินด้า ไรท์ นักรณรงค์การอนุรักษ์เสือกังวลว่าการห้ามนักท่องเที่ยวเข้าชมเสือในเขตอนุรักษ์น่าจะส่งผลเสียมากกว่าเพราะจะกระทบต่อวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นที่ทำงานในกิจการการท่องเที่ยวดังกล่าว คุณไรท์เชื่อว่าการท่องเที่ยวชมเสือจริงๆแล้วช่วยปกป้องเสือโคร่งอินเดียให้อยู่ต่อไปเพราะถ้าไม่มีเสือนักท่องเที่ยวก็ไม่เข้าไปดู
บรรดานักอนุรักษ์สัตว์ป่าหลายคนเห็นด้วยกับคุณไรท์ พวกเขาบอกว่า อินเดียควรหลีกเลี่ยงมาตราการสั่งห้ามการท่องเที่ยวชมเสือแต่หันไปปรับปรุงการจัดการการท่องเที่ยวชมสัตว์ป่าในประเทศให้ดีขึ้น
คุณลาติกา นัฐ รานา เรียนจบปริญญาเอกด้านการอนุรักษ์เสือและเป็นเจ้าของบ้านพักนักท่องเที่ยวชมเสือในรัฐมัธยประเทศ เธอบอกว่าไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าการท่องเที่ยวเป็นภัยต่อเสือ
คุณลาติกา นัฐ รานา บอกว่าได้ศึกษาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างพื้นที่โซนท่องเที่ยวกับพื้นที่ปราศจากการท่องเที่ยวเป็นเวลาสี่ปีแล้วพบว่าการท่องเที่ยวมีคุณประโยชน์มหาศาล เธอบอกว่าการท่องเที่ยวชมเสืือในเขตอนุรักษ์สร้างงานแก่คนท้องถิ่นตั้งแต่อาชีพทัวร์ไกด์ไปจนถึงคนขับรถ การสั่งห้ามการท่องเที่ยวในเขตอนุรักษ์เสือจะทำให้คนเหล่านี้ตกงานซึ่งจะส่งผลสะท้อนกลับทางลบแก่ความเป็นอยู่ของเสือโคร่งได้