ชนบทอินเดียก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลผ่านธุรกรรมออนไลน์

การจับจ่ายซื้อของของชาวอินเดียในชนบทที่ในอดีตมักจะใช้เงินสดเป็นหลักได้รับการแปลงโฉมใหม่ให้มีความทันสมัยและสะดวกมากขึ้น เพราะรัฐบาลได้ผลักดันโครงการทำธุรกรรมการเงินแบบออนไลน์ให้เข้าถึงคนทุกหย่อมหญ้ามากขึ้น

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ รัฐบาลอินเดียพยายามพัฒนาเทคโนโลยีและขยายการเชื่อมต่อผ่านอินเตอร์เน็ตเพื่อให้ประชากรราว 1,400 ล้านคนของประเทศ ที่ราว 2 ใน 3 อาศัยอยู่ในชนบท สามารถมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจยุคดิจิทัลผ่านโครงการ Digital India ซึ่งหนึ่งในแผนการพัฒนา คือ การให้ประชากรและร้านรวงต่าง ๆ ทำธุรกรรมการเงินด้วยโทรศัพท์มือถือได้ทันที ทั้งโอนเงินและรับเงินผ่านระบบ Unified Payment Interface (UPI) ที่พัฒนาขึ้นโดยธนาคารกลางอินเดีย

เอ็น. อาร์. บานุเมอตี รองคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเบงกาลูรู กล่าวว่า “ความสะดวกของเทคโนโลยีควบคู่กับการลดค่าใช้จ่ายของการทำธุรกรรมลงนั้นทำให้ระบบ UPI ได้รับความนิยมมาก เพียงแค่กดปุ่มเดียวก็สามารถทำธุรกรรมได้แล้ว มันสะดวก ประหยัด ใช้ง่าย…นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวิธีการทำธุรกิจเมื่อเทียบกับในอดีตเลย”

ในประเทศอินเดียนั้น ไม่ว่าจะเป็นเมืองเล็ก ใหญ่ หรือตามชนบท ภาคธุรกิจการค้าปลีกซึ่งประกอบด้วยร้านรวงเล็ก ๆ นับล้าน มักจะทำธุรกรรมด้วยเงินสดเท่านั้น

แต่จากการพัฒนาข้างต้นช่วยทำให้ประชากรวัยผู้ใหญ่ในอินเดียเปิดบัญชีธนาคารกันมากขึ้น โดย 80% ของประชากรกลุ่มนี้มีบัญชีธนาคารแล้ว เพิ่มสูงขึ้นจากช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีเพียง 33% ของคนกลุ่มดังกล่าวที่มีบัญชีธนาคาร

ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องมือที่เป็นสื่อกลางด้านธุรกรรมการเงินใกล้ตัว อย่างโทรศัพท์สมาร์ทโฟนในอินเดียที่มีราคาที่ชาวอินเดียเอื้อมถึง ทำให้ผู้คนถึง 750 ล้านคนมีโทรศัพท์ใช้ บวกกับการระบาดของโควิดที่ส่งผลให้คนลดการใช้เงินสดลง และยังช่วยส่งเสริมผู้คนหันมาใช้ระบบ UPI มากขึ้นอีกด้วย

ผู้คนในหมู่บ้านบานูริในแถบชนบทของรัฐหิมาจัลประเทศ ทางตอนเหนือของอินเดีย หันมาสแกน QR code ในการซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันตามร้านรวง และรถเข็นขายผักสดข้างทางต่าง ๆ

นิสแชน ชาร์มา คนขายผักในหมู่บ้านกล่าวขณะขายดอกกะหล่ำราคา 75 เซนต์ให้ลูกค้าว่า ไม่ว่าลูกค้าจะซื้อผักแค่ครึ่งกิโล หรือน้อยแค่ไหนก็ตาม พวกเขาก็มักจะจ่ายเงินแบบดิจิทัล เพราะสะดวกกว่าจ่ายเงินสดมาก

ด้านผู้ประกอบการอย่าง อาคีลีช ชาร์มา เจ้าของร้านเคมีภัณฑ์ในหมู่บ้านนูริ ระบุว่า ลูกค้าถึง 70% จ่ายเงินแบบออนไลน์ ซึ่งการทำธุรกรรมด้วยระบบดิจิทัลยังทำให้ชีวิตของอาคีลีชง่ายขึ้นด้วย

เขากล่าวว่า “เมื่อไหร่ที่เปิดแอป PhonePe หรือ Google Pay รายละเอียดของธุรกรรมต่าง ๆ ได้ถูกจัดเรียงไว้ในบัญชีของผมอย่างเรียบร้อย แต่ถ้าเกิดใช้เงินสด ผมต้องมานั่งนับตอนหมดวัน มันเสียเวลา และก็ต้องเดินทางเพื่อเอาเงินไปฝากธนาคารด้วย”

นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า การใช้จ่ายผ่านระบบดิจิตัลช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ เพิ่มยอดขายได้มากขึ้น และผู้คนในชนบท โดยเฉพาะลูกค้าที่อายุน้อย ยังชอบประโยชน์ของการไม่ใช้เงินสดซื้อของ

วิคาส ชาร์มา ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองปาลัมปูร์ ของรัฐหิมาจัลประเทศ กล่าวว่า “ฉันไม่ต้องห่วงเรื่องการถือเงินติดตัวอีกต่อไป ก่อนหน้านี้ฉันอยู่ในที่ที่คนพลุกพล่าน แต่ฉันก็ไม่กังวลว่ากระเป๋าตังค์จะโดนขโมย เพราะสามารถทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์ได้”

ท้ายสุดนี้ สิ่งที่ต้องจับตาดูในอนาคตเพื่อให้การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของอินเดียประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น คือ ความเร็วของอินเตอร์เน็ต ซึ่งยังคงเป็นความท้าทายสำหรับแดนภารตะ แม้ว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อินเดียจะมีการขยายโครงข่ายอินเตอร์เน็ตให้เข้าถึงประชากรได้เพิ่มขึ้นเท่าตัวที่เกือบ 700 ล้านคนก็ตาม แต่ผู้คนโดยเฉพาะในเมืองเล็ก ๆ ตามชนบทอีกนับล้านยังคงขาดการเชื่อมต่ออยู่

• ที่มา: วีโอเอ