อิสราเอลเชื่อว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังการระเบิดที่กรุงเทพฯ และอินเดีย

รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล นายอีฮู้ด บารัค กล่าวหารัฐบาลอิหร่านว่าอยู่เบื้องหลังการระเบิดในกรุงเทพฯเมื่อวันที่ 14 ก.พ รวมทั้งการก่อการร้ายอื่นๆ ทั่วโลก

ตามรายงานของอิสราเอลระบุว่าเมื่อเดือนมกราคม ชาวอาเซอร์ไบจาน 3 คนถูกจับกุมก่อนที่จะปฏิบัติการลอบโจมตีทำร้ายฑูตอิสราเอลประจำอาเซอร์ไบจาน นายไมเคิ่ล โลทาม ในกรุงบาคู ซึ่งฑูตอิสราเอลผู้นั้นกล่าวกับสื่อมวลชนในอาเซอร์ไบจานในวันอังคาร ยืนยันว่าอิหร่านคือผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯเมื่อวันอังคาร และเหตุการณ์ระเบิดในอินเดียในวันจันทร์อย่างไม่ต้องสงสัย

ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีมหาดไทยของอินเดีย นาย พี ชิดาบารัมระบุว่าเหตุการณ์ระเบิดติดรถยนต์ในอินเดียเมื่อวันจันทร์มีเป้าหมายที่ภรรยาของนักการฑูตอิสราเอลและเป็นที่แน่ชัดว่าผู้โจมตีได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี โดยการสืบสวนจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของการก่อการร้าย

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในกรุงนิวเดลี เมื่อมีคนขับรถจักรยานยนต์คันหนึ่งขับตามรถตู้ของสถานฑูตอิสราเอลในกรุงนิวเดลีและได้ติดระเบิดไว้ที่ประตูหลังรถตู้ ก่อนที่แรงระเบิดจะทำให้มีผู้บาดเจ็บ 4 คนรวมถึงคนขับและภรรยาของนักการฑูตอิสราเอล โดยการลอบวางระเบิดครั้งนี้ใช้เวลาเพียง 4-5 วินาที นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ลอบวางระเบิดลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นกับรถตู้ของสถานฑูตอิสราเอลในจอร์เจียในวันเดียวกัน แต่ระเบิดลูกนั้นไม่ทำงาน

อิหร่านปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการระเบิดในอินเดีย พร้อมกล่าวหากลับว่าอิสราเอลพยายามสร้างสถานการณ์และใช้สงครามจิตวิทยาด้วยการโจมตียานพาหนะของสถานฑูตอิสราเอลเองแล้วโยนความผิดให้อิหร่าน ทางด้านรัฐมนตรีมหาดไทยของอินเดียกล่าวว่ายังเร็วไปที่จะระบุว่ากลุ่มใดอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่ว่าใครเป็นผู้ลงมือรัฐบาลอินเดียก็พร้อมที่จะประณามขั้นรุนแรงที่สุด

อินเดียมีความสัมพันธ์ยาวนานกับอิหร่านและต้องพึ่งพาน้ำมันนำเข้าจากอิหร่าน ก่อนหน้านี้รัฐบาลอินเดียได้ปฏิเสธคำเรียกร้องของประเทศตะวันตกที่ต้องการให้ลงโทษอิหร่านสืนเนื่องจากโครงการนิวเคลียร์ และอินเดียยังมีแผนส่งผู้แทนการค้าไปกรุงเทหรานภายในเดือนนี้ด้วย

เหตุการณ์ระเบิดครั้งล่าสุดในกรุงนิวเดลีทำให้ชาวอินเดียต่างหวั่นเกรงว่าประเทศของตนอาจตกเป็นสมรภูมิแห่งใหม่ท่ามกลางความขัดแย้งและปฏิบัติการลับของอิสราเอลและอิหร่าน