ค้างคาวเป็นสัตว์ปีกเลี้ยงลูกด้วยนมที่มีความหลากหลายทางสายพันธุ์ อาศัยอยู่ทุกมุมโลก คนส่วนมากมองค้างคาวว่าน่ากลัว บ้างเอาไปเกี่ยวโยงกับสิ่งเหนือธรรมชาติ แม่มด พ่อมด เพราะเข้าใจผิดว่าค้างคาวทุกชนิดดูดเลือดเป็นอาหาร จริงๆแล้วค้างคาวส่วนใหญ่ไม่มีพิษภัย กินผลไม้กับแมลง มีอยู่ไม่กี่ชนิดที่ดูุดเลือดสัตว์อื่นเป็นอาหาร
ในทวีปอเมริกาเหนือ ค้างคาวช่วยกินแมลงในสวนฟาร์หมเป็นการควบคุมแมลงไปในตัวแล้วยังช่วยผสมเกสรของพืชด้วย แต่หลายปีที่ผ่านมาประชากรค้างคาวลดลงอย่างรวดเร็วเพราะถูกโรคภัยคุกคามและถูกมนุษย์รุกรานแหล่งอาศัยในธรรมชาติ ที่กรุงวอชิงตัน ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังพยายามสร้างความเข้าใจสาธารณชนที่ถูกต้องเกี่ยวกับค้างคาวเพื่อความอยู่รอดของสัตว์ปีกเลี้ยงลูกด้วยนมชนิดนี้
ตอนใกล้พลบค่ำทุกวัน คุณ Leslie Sturges เริ่มตรวจนับจำนวนค้างคาวฝูงหนึ่ง เธอเฝ้าติดตามนับค้างคาวฝูงนี้มาได้ระยะหนึ่ง ในช่วงฤดูร้อนของทุกปี ค้างคาวฝูงนี้จะมารวมตัวกันที่กล่องไม้ที่แขวนไว้บนคานไม้จำนวนหลายกล่องในสวนสาธารณะย่านที่อยู่อาศัยชานกรุงวอชิงตันแห่งนี้ ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ ค้างคาวผลัดกันโผบินออกไปโฉบจับแมลงกินเป็นอาหาร
คุณ Leslie Sturges แสดงความกังวลว่าจำนวนค้างคาวที่นับได้ปีนี้ลดลงไปครึ่งหนึ่งจากจำนวนที่นับได้หน้าร้อนปีที่แล้ว เธอหวังว่าค้างคาวที่หายไปอาจจะบินกลับไปยังถ้ำของตนก่อนเวลาเพื่อจำศีลตลอดช่วงฤดูหนาว
คุณ Leslie Sturges เป็นผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์ค้างคาว Bat World NOVA เธอใช้ห้องใต้ดินในบ้านเป็นที่รักษาค้างคาวที่ได้รับบาดเจ็บและดูแลลูกค้างคาวกำพร้าให้แข็งแรงก่อนที่จะพวกมันปล่อยกลับไปอยู่เองตามธรรมชาติ
คุณ Leslie Sturges กล่าวว่า ประชากรค้างคาวกำลังลดลงทั่วโลก ส่วนใหญ่เพราะว่าแหล่งที่อยู่ของค้างคาวถูกมนุษย์รุกรานและมีการใช้ยาฆ่าแมลงกันมากเกินความจำเป็น มนุษย์อยากกำจัดค้างคาวมากขึ้นในปัจจุบันเพราะคิดว่าค้างคาวเป็นภัยต่อมนุษย์หรืออาจจะเป็นพาหะของโรคหมาบ้าที่อันตรายถึงชีวิต แต่จริงๆแล้ว คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดที่คิดว่าค้างคาวสกปรก ค้างคาวชอบทำความสะอาดตัวเองเหมือนแมวหรือสุนัข แต่ค้างคาวจะใช้นิ้วเท้าสางขนของตนเอง
คุณ Leslie Sturges สอนเรื่องความสำคัญของค้างคาวที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติต่างๆและตามโรงเรียนหลายแห่งเพื่อส่งเสริมความเข้าใจที่ถูกต้องถึงข้อดีของค้าวคาวต่อธรรมชาติเพื่อให้คนหันมาอนุรักษ์ค้างคาว เธอยกตัวอย่างข้อดีของค้างคาวในทวีปอเมริกาเหนือ อาทิ ค้างคาวช่วยกินแมลงที่กัดกินพืชผักในสวนฟาร์หม ช่วยควบคุมจำนวนแมลงด้วยวิธีธรรมชาติ เธอบอกว่าในกรณีนี้ ชาวนาชาวสวนได้คุณจากค้างคาว
คุณ Leslie Sturges ใช้อุปกรณ์ช่วยดักฟังเสียงของค้างคาวตอนออกล่าเหยื่อ จริงๆแล้วค้างคาวไม่ได้ตาบอดเหมือนอย่างที่คนเราหลายคนเข้าใจ ค้างคาวมีสายตาดี แต่ในกลางคืนค้างคาวใช้หูที่ไวฟังเสียงสะท้อนจากเสียงร้องแหลมๆของตนที่ไปกระทบกับตัวแมลงแล้วสะท้อนกลับ ทำให้ค้างคาวรู้ว่าแมลงบินอยู่ตรงไหน แต่คนเราต้องใช้อุปกรณ์ช่วยดักฟังจึงจะได้ยินเสียงสะท้อนของค้างคาว
คุณ Leslie Sturges และผู้ช่วยคือ คุณ Sherry Keen ดูแลค้างคาวกำพร้าและพยาบาลค้างคาวบาดเจ็บกับค้างคาวป่วยจำนวนเกือบสามสิบตัวช่วงฤดูร้อนปีนี้ เมื่่อค้างคาวหายดีและแข็งแรงพอที่จะบินได้ ก็จะย้ายไปไว้ในกรงที่คลุมด้วยแฝงตาข่ายลวดในสวนหลังบ้านเพื่อให้ฝึกบินก่อนจะปล่อยให้ไปอยู่เองตามธรรมชาติ
ค่ำวันนี้ คุณ Leslie Sturges เตรียมจะปล่อยค้างคาวกำพร้าสีแดงตัวผู้ชื่อแช็คกี้หลังจากมันหัดบินจนเก่ง ก่อนจะปล่อยตัวเจ้าแช็คกี้ คุณ Leslie Sturges จะให้ค้างคาวกินอาหารให้อิ่มเสียก่อน
พอตะวันตกดินก็พาเจ้าแช็คกี้ออกจากกรงเพื่อทำการปล่อย แม้จะถูกคะยั้นคะยอให้บินไปสู่อิสรภาพ เจ้าแช็คกี้กลับไม่ยอมขยับตัว คุณ Leslie Sturges สงสัยว่าค้างคาวกำพร้าตัวนี้คงอิ่มและง่วงนอน จึงพาแช็คกี้กลับเข้ากรงให้งีบหลับหนึ่งชั่วโมง แล้ววางแผนจะนำตัวออกมาลองปล่อยอีกครั้งตอนค่ำ เธอบอกว่าเจ้าแช็คกี้ต้องไปอยู่ตามธรรมชาติเอง จะอยู่ในกรงแบบนี้ต่อไปไม่ได้
หลังจากเจ้าแช็คกี้ตื่นจากนอนงีบ คุณ Leslie Sturges พามันออกจากกรงอีกครั้งเพื่อเตรียมปล่อยตัวไปสู่ธรรมชาติ คราวนี้เจ้าแช็คกี้ไม่รอช้า มันกางปีกโผบินออกไปสู่ความมืดข้างหน้า แช็คกี้มีโอกาสรอดสูงเพราะค้างคาวแดงมีแหล่งอาศัยในพื้นที่