มหานครนิวยอร์คเป็นเมืองที่ดึงดูดคนต่างชาติให้ย้ายถิ่นฐานเข้าไปในอยู่เพื่อเเสวงหาชีวิตที่ดีกว่ามานานแล้วแต่ผลการศึกษาที่จัดทำอย่างเป็นเอกเทศชิ้นล่าสุดชี้ว่าผู้ย้ายถิ่นฐานชาวต่างชาติเหล่านี้มีส่วนช่วยสร้างเศรษฐกิจของมหานครนิวยอร์คให้เติบโต
คนต่างด้าวที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในสหรัฐอย่างผู้ที่เข้าร่วมประท้วงในมหานครนิวยอร์คเมื่อเร็วๆ นี้ได้กลายเป็นกลุ่มคนที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น สำนักงานเทศบาลมหานครนิวยอร์ครายงานว่านิวยอร์คมีคนโยกย้ายถิ่นฐานชาวต่างด้าวนับเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรทั้งหมดของเมือง
คุณ Nisha Agarwal หัวหน้าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งมหานครนิวยอร์คกล่าวว่านี่ถือเป็นจำนวนคนโยกย้ายถิ่นชาวต่างด้าวจำนวนมากและหากนำไปรวมกันแล้ว คนโยกย้ายถิ่นฐานชาวต่างด้าวจำนวนสามล้านคนทั่วมหานิวยอร์คจะเทียบเท่ากับเมืองใหญ่ที่สุดอันดับที่สามในสหรัฐ
คุณ Nisha Agarwal กล่าวว่ามหานครนิวยอร์คถือเป็นเมืองที่ร่ำรวยคนต่างด้าว ลูกหลานของคนโยกย้ายถิ่นก็เข้าเรียนในโรงเรียนในเมือง คนเหล่านี้ประกอบอาชีพหลากหลายสาขาและมีบทบาททางเศรษฐกิจ ทางการของเมืองต้องสนับสนุนคนเหล่านี้เพราะนอกจากจะมีผลดีต่อทุกครอบครัวแล้ว มหานครนิวยอร์คก็ได้ประโยชน์จากคนต่างชาติย้ายถิ่นฐานเข้าไปอยู่เช่นกัน
รายงานจากผลการวิจัยที่สนับสนุนโดยสมาคม American Society and Council of Americas หรือ ASCOA พบข้อมูลที่ตรงกันข้ามกับภาพลักษณ์ที่คนทั่วไปมองว่าคนต่างด้าวยากจนและเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม
การวิจัยชิ้นล่าสุดนี้ศึกษาการเพิ่มจำนวนของคนโยกย้ายถิ่นชาวต่างชาติกับรายงานของตำรวจในพื้นที่เป็นระยะเวลานาน 10 ปีระหว่างปีพุทธศักราช 2533 จนถึงปี 2543 ในช่วง 10 ปีดังกล่าว เศรษฐกิจของมหานครนิวยอร์คและระดับคุณภาพชีวิตพัฒนาขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะในเขตชุมชนคนยากจน
คุณ Jacob Vigdor นักวิจัยและผู้ร่างผลการวิจัยนี้กล่าวถึงเหตุผลต่อเรื่องนี้ว่า
เขากล่าวว่าคนย้ายถิ่นเข้าไปอาศัยในเขตชุมชนยากจนของนิวยอร์คเพราะไม่เเพงเกินไป มีบทบาทช่วยสร้างความมั่นคงให้เเก่ชุมชนเหล่านี้เพราะช่วยลดจำนวนบ้านเช่าที่ขาดคนเช่าลงตลอดจนช่วยลดปัญหาบ้านเช่ารกร้างลง นักวิจัยกล่าวว่าปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ปัญหาอาชญากรรมในชุมชนลดลง
ศาสตราจารย์ Robert Thomson ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายสังคมแห่งมหาวิทยาลัย Harvard กล่าวว่าคนโยกย้ายถิ่นที่ตัดสินใจย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในสหรัฐเป็นกลุ่มคนที่มักไม่ก่ออาชญากรรมและมักทำงานหนัก
ศาสตราจารย์ Robert Thomson กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าสาเหตุที่คนโยกย้ายถิ่นชาวต่างชาติย้ายมาอยู่ในสหรัฐก็เพราะต้องการทำงาน ต้องการความก้าวหน้าและต้องการหาเลี้ยงครอบครัวตลอดจนสร้างชุมชน
ด้านคุณ Kate Brick ผู้จัดการด้านนโยบายเเห่งสมาคม ASCOA ที่สนับสนุนการวิจัยชิ้นนี้กล่าวว่าการลงทุนของผู้ย้ายถิ่นยังช่วยหนุนให้เศรษฐกิจของมหานครนิวยอร์คเติบโต คนโยกย้ายถิ่นฐานสามารถทำงานในตำเเหน่งที่ชาวอเมริกันโดยกำเนิดไม่อยากทำ
คุณ Brick กล่าวว่าผู้โยกย้ายถิ่นฐานกลายเป็นเเรงงานหลักในภาคการเกษตร ภาคการผลิตและภาคบริการในขณะเดียวกันคนย้ายถิ่นฐานชาวต่างชาติก็มีความหลากหลายอย่างมาก นอกเหนือจากคนย้ายถิ่นฐานจะทำงานในตำเเหน่งงานที่ต้องใช้เเรงงานและได้ค่าตอบเเทนต่ำเเล้ว บางส่วนก็เป็นเเรงงานระดับมันสมองที่เข้ามาทำงานในด้านเทคโนโลยี วิศวกรรม วิทยาศาสตร์และทางการแพทย์ในสหรัฐ
สมาคม American Society and Council of Americas หรือ ASCOA วางแผนจะใช้ผลการวิจัยนี้ในการกระตุ้นให้เมืองอื่นๆในสหรัฐต้อนรับผู้ย้ายถิ่นฐานชาวต่างชาติเข้าไปอาศัยและทำงานเพราะจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ย้ายถิ่นที่เกิดในต่างแดนและคนอเมริกันโดยกำเนิด
