นายฮันเตอร์ ไบเด้น บุตรชายของอดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเด้น ให้สัมภาษณ์กับสถานีข่าว ABC News ยอมรับว่าตนตัดสินใจผิดพลาด แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้กระทำการใด ๆ ผิดกฎหมายในการทำธุรกิจในยูเครนและจีน ดังที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหา
นายฮันเตอร์ ไบเด้น กล่าวว่า ตนตัดสินใจผิดพลาดที่คิดว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อบิดาของตน ที่กำลังลงสมัครเลือกตั้งเป็นผู้แทนพรรคเดโแมครตเพื่อชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ยืนยันการกระทำของตนมิได้ผิดกฎหมายหรือผิดศีลธรรมแต่อย่างใด
นายไบเด้น ปัจจุบันอายุ 49 ปี เขาดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารของบริษัทพลังงานยูเครน Burisma ในช่วงที่บิดาของเขาเป็นรองประธานาธิบดีในสมัยประธานาธิบดีโอบาม่า
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวหานายโจ ไบเด้น ว่า เมื่อครั้งที่นายไบเด้นดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาและผู้นำโลกตะวันตกรายอื่นกดดันให้ยูเครนปลดอัยการสูงสุดของประเทศ เพียงเพราะต้องการปกป้องลูกชายของตนจากข้อกล่าวหาเรื่องคอร์รัปชั่น
ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังเรียกร้องให้ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีเมียร์ เซเลนสเกีย ยื่นมือเข้าช่วยในการสืบสวนนายโจ ไบเด้น และบุตรชาย ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ ยังกล่าวหาว่า นายฮันเตอร์ ไบเด้น ใช้เครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ ทู ของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเดินทางไปจีนเมื่อปี 2013 เพื่อจัดหาเงิน 1,500 ล้านดอลลาร์จากจีนเข้าไปในกองทุนส่วนตัวที่นายฮันเตอร์เป็นผู้ก่อตั้งขึ้น
โดยบทสนทนาทางโทรศัพท์ของผู้นำสหรัฐฯ และยูเครน ถูกนำมาเปิดเผยโดยผู้เปิดโปงข้อมูลลับ หรือ whistleblower ที่นำไปสู่ความพยายามถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ ที่สั่นสะเทือนการเมืองอเมริกันอยู่ในขณะนี้
เวลานี้ โจ ไบเด้น เป็นผู้สมัครของพรรคเดโมแครตที่มีคะแนนนิยมนำหน้าผู้สมัครคนอื่น และมีโอกาสเป็นผู้ท้าชิงประธานาธิบดีทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีหน้า