รัฐบาลหลายๆ ประเทศทั่วโลกได้ร้องขอหรือสั่งให้พลเมืองกักกันตัวเอง และอยู่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการติดต่อกับคนอื่น
การกักตัวเองจะช่วยชะลอการแพร่กระจายของโรคต่างๆ เช่น COVID-19 ซึ่งพบเป็นครั้งแรกที่ประเทศจีนในช่วงปลายเดือนธันวาคมและกลายเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณะสุขทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม การกักตัวเองอยู่ในบ้านอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ โดยความเสี่ยงในเรื่องความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าอันเป็นผลมาจากการกักกันตัวเองนั้นมีเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทั่วโลกจึงเสนอคำแนะนำเพื่อช่วยให้สามารถรับมือกับผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ของการกักตัวเองที่มีต่อสุขภาพจิตได้
Claudia W. Allen นักจิตวิทยา หัวหน้าภาควิชาพฤติกรรมศาสตร์คณะแพทยศาสตร์ และหัวหน้าศูนย์ Family Stress Clinic มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย แนะนำวิธีที่จะช่วยรักษาสุขภาพจิตไว้ดังนี้
ทำทุกอย่างตามปกติ ทำทุกอย่างตามปกติมากที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อช่วยให้มีสุขภาพดีในระหว่างการกักตัว เช่นควรตื่นนอนและแต่งตัวตามเวลาปกติ คนที่อยู่ในชุดนอนทั้งวันอาจทำให้รู้สึกว่าไม่อยากจะทำอะไร หรือไม่มีเป้าหมาย
วางแผนการ ควรมีการวางแผน เขียนรายการกิจกรรมและกำหนดเวลา กิจกรรมเหล่านั้นอาจรวมถึงการทำความสะอาดบ้าน ชำระค่าใช้จ่าย โทรศัพท์ และเตรียมอาหาร ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพยังแนะนำให้ทานอาหารตามเวลาปกติด้วย
มีกิจกรรมดูแลตัวเอง ควรมีกิจกรรม “การดูแลตนเอง” ในระหว่างการกักตัว เช่นการออกกำลังกาย การอ่านหนังสือ หรือการเล่นดนตรี การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าจะอยู่แต่ในบ้าน แต่ต้องไม่ลืมที่จะขยับร่างกาย หรืออาจจะเข้าคลาสออกกำลังกายออนไลน์
ออกไปข้างนอกบ้าน ควรออกไปใช้เวลาอยู่นอกบ้านบ้าง ธรรมชาติสามารถช่วยบรรเทาความเบื่อและความตึงเครียดอื่นๆ ที่เกิดจากการกักตัวได้ เช่นการออกไปเดินเล่น ทำงานในสวนหลังบ้าน ปลูกผัก สำรวจป่า รับแสงแดด และล้างรถหรือรถจักรยาน
ใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างฉลาด สื่อสังคมออนไลน์เชื่อมโยงผู้คนไว้ด้วยกัน แต่ถ้าใช้มากเกินไปอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
Claudia Allen กล่าวว่าการศึกษาบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าสื่อสังคมออนไลน์สามารถทำให้บางคนรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง ดังนั้นควรใช้อย่างชาญฉลาด เช่นใช้ในการพูดคุยกับเพื่อน ครอบครัว เพื่อนบ้าน และคนอื่นๆ ผ่านบริการสื่อสารผ่านวิดีโอ
หาวิธีช่วยเหลือผู้อื่น การช่วยเหลือผู้อื่นเป็นอีกวิธีหนึ่งในการยกระดับจิตใจในระหว่างการกักตัว ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เช่นการโทรหาคนที่อยู่คนเดียว หรือทักทายเพื่อนบ้านจากทางหน้าต่าง นอกจากนี้สามารถให้บริการออนไลน์ เช่นหากเป็นครู ก็สามารถให้ความช่วยเหลือในเรื่องการทำการบ้านออนไลน์แก่เพื่อนๆ ที่ตอนนี้ต้องสอนหนังสือลูกอยู่ที่บ้าน
และตรวจสอบความรู้สึกของตัวเอง หากรู้สึกว่าประสบปัญหาจากผลกระทบของการกักตัว ให้ติดต่อแพทย์ หรือองค์กรเพื่อชุมชน หรือติดต่อหมายเลขสายด่วนฉุกเฉิน