รายงานข่าวกล่าวว่ามีผู้ร่วมเดินขบวนประท้วงนับแสน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาและนักเรียน ถือป้ายเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้จริง และเปล่งเสียงร้องให้นาย Leung Chun-ying หัวหน้าคณะผู้บริหาร ซึ่งปักกิ่งเลือกมา ลาออกจากตำแหน่งไป
การประท้วงเมื่อวันอังคารที่ 1 กรกฎาคม ตรงกับการชุมนุมประจำปีเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นวันที่อังกฤษส่งมอบฮ่องกงคืนให้กับจีน และเมื่อสองวันก่อนหน้านั้น หนึ่งในห้าของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในฮ่องกงร่วมลงคะแนนเสียงอย่างไม่เป็นทางการสนับสนุนการปฏิรูปอย่างเป็นประชาธิปไตย เหตุการณ์ทั้งหมดนี้มีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลจีนเผยแพร่สมุดปกขาวเรื่องการปฏิรูปการเมืองในฮ่องกงออกมา
ปักกิ่งได้สัญญาไว้ว่า จะอนุญาตให้ชาวฮ่องกงลงคะแนนเสียงเลือกผู้บริหารของตนเองได้ในปี ค.ศ. 2017 แต่ยืนยันว่า ปักกิ่งจะต้องเป็นผู้ให้ความเห็นชอบล่วงหน้าต่อรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งทำให้ชาวฮ่องกงจำนวนไม่น้อยไม่พอใจเป็นอย่างมาก
สมุดปกขาวยาว 14,500 คำที่สำนักข่าวของคณะรัฐมนตรีจีนเผยแพร่ออกมาเมื่อต้นปี กล่าวว่า ฮ่องกงไม่มีสิทธิ์ปกครองตนเองอย่างสมบูรณ์ และว่ามี “ความเข้าใจผิด” กันหลายเรื่องในฮ่องกงเกี่ยวกับแนวคิด “ประเทศเดียว สองระบบ” ของจีน
ผู้ประท้วงบางคนในฮ่องกงจุดไฟเผาสำเนาสมุดปกขาวที่ว่านี้ ในขณะเดียวกัน Derek Chan Tak-cheung นักต่อสู้เคลื่อนไหวคนหนึ่งที่ไปร่วมการประท้วง เล่าว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีของจีนเผยแพร่สมุดปกขาวออกมา เขาและเพื่อนทำพิธีฝังป้ายคำขวัญที่กล่าวว่า ‘ขอให้ฮ่องกงไปสู่สุคติ’ เป็นการประท้วง
ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นักต่อสู้เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกงจัดการหยั่งเสียงอย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับการเลือกตั้งหัวหน้าคณะผู้บริหารฮ่องกง มีชาวฮ่องกงราวๆแปดแสนคนเข้าร่วมการหยั่งเสียงที่ว่านี้ ในขณะที่รัฐบาลจีนกล่าวว่าเป็นการดำเนินการที่ผิดกฎหมายและไม่มีผลบังคับใช้
สื่อทางการจีนกล่าวเตือนชาวฮ่องกงในเรื่องการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย นสพ. China Daily ของทางการจีนเขียนไว้ว่า “ถ้าไม่มีแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกงจะมีการค้าเหลือเพียงครึ่งเดียว หนึ่งในสี่ของการลงทุนจากต่างประเทศและนักท่องเที่ยว โดยยังไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีน้ำและอาหารให้ดื่มกินกันเพียงหนึ่งในสิบของที่มีอยู่ในขณะนี้เท่านั้น”