หลังจากนางฮิลลารี คลินตัน ประกาศรับการเป็นผู้แทนพรรคเดโมแครตในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการในการ ในการกล่าวปราศัยต่อที่ประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครต ที่นครฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อคืนวันที่ 28 กรกฎาคม ทำให้เธอกลายเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองสหรัฐอเมริกาขึ้นทันที
นางฮิลลารี ในวัย 68 ปี ถือเป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นตัวแทนพรรคเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วยการมีคะแนนเหนือนาย เบอร์นี แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกจากรัฐเวอร์มอน ในการเลือกตั้งขั้นต้นภายในพรรคตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
แม้จะมีข้อครหาจากข่าวอื้อฉาวกรณีการเผยแพร่อีเมลล์ของอดีตประธานคณะกรรมการบริหารระดับชาติของพรรคที่มีความไม่เป็นกลางเข้าข้างนางฮิลลารีในการเลือกตั้งขั้นต้น จนมีกระแสคัดค้านและประท้วงจากกลุ่มผู้สนับสนุนนายแซนเดอร์ส แต่เธอก็ได้รับการสนับสนุนให้เป็นผู้แทนพรรคจากเสียงส่วนใหญ่ ซึ่งรวมไปถึง นายเบอร์นี แซนเดอร์ส อดีตคู่แข่งที่ประกาศสนับสนุนนางฮิลลารีอย่างเต็มตัว และทำให้เธอผ่านอุปสรรค์สำคัญของการเป็นผู้แทนพรรคลงชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ที่มีคะแนนความนิยมจากผลสำรวจของพรรคเดโมแครตที่ต่ำที่สุดในประวัติศ่าสตร์มาได้
ก่อนหน้านี้เพียง 1 สัปดาห์ ผลวิจัย Gallup poll ระบุว่าเธอมีคะแนนความนิยมจากผู้ลงคะแนนเสียงเพียง ร้อยะละ 38 เท่านั้น
นอกจากนี้ผลสำรวจล่าสุดจาก Washington Post-ABC News poll พบว่าเธอไม่เป็นที่ชื่นชอบมากมากถึงร้อยละ 54นอกจากนี้ยังมีเพียงร้อยละ 39 เท่านั้นทื่เชื่อมั่นในความซื่อสัตย์และความน่าเชื่อถือของเธอ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกรณีการใช้อิเมล์ส่วนตัวระหว่างการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
Allan Lichtman นักประวัติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอเมริกัน มองว่า ปัญหาใหญ่ของนางคลินตันต่อจากนี้คือการก้าวข้ามช่องว่างของความน่าเชื่อถือนี้ให้ได้ เพราะผลคะแนนสำรวจกว่าร้อยละ 56 ของชาวอเมริกัน เชื่อว่าเธอควรจะถูกลงดำเนินคดีจากกรณีการใช้อีเมล์ส่วนตัว ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก
อย่างไรก็ตามหากถามในแง่ของความพร้อมในการเป็นประธานาธิบดี ผลสำรวจจากมหาวิทยาลัยควินนีพิแอกส์ ที่สำรวจความเห็นของชาวอเมริกันถึงผู้บุคคลที่มีการเตรียมพร้อมที่จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมก่อนจะมีการประชุมใหญ่ของทั้ง 2 พรรคพบว่า นางฮิลลารีมีคะแนนนำนายโดนัล ทรัมพ์ จากพรรคริพับลิกันในแง่ของความพร้อม อยู่ที่ ร้อยละ 58 ต่อ ร้อยละ 33
การได้ตัวแทนพรรคเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากทั้ง 2 พรรค คือนายโดนัล ทรัมพ์ ของพรรคริพับลิกัน และนางฮิลลารี คลินตัน จากเดโมแครต เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นของการชิงชัยบนเส้นทางสู่ทำเนียบขาวอย่างแท้จริงอย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายขั้นตอนที่ผู้แทนจากทั้ง 2 พรรคจะต้องเร่งระดมหาเสียง แถลงนโยบาย รวมทั้งเตรียมขึ้นเวทีเพื่อเผชิญหน้าโต้วิสัยทัศน์ หรือดีเบท อีกหลายครั้ง เพื่อเรียกคะแนนนิยมจากประชาชนก่อนการเลือกตั้งที่จะมาถึงในวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้