ไฟป่ายังโหมกระหน่ำนครลอสแอนเจลิสต่อเนื่องในวันอาทิตย์ ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยของสหรัฐฯ ได้เตือนว่ากระแสลมรุนแรงที่เพิ่มขึ้นอาจเป็นภัยคุกคามสำคัญที่ทำให้ไฟป่ายกระดับรุนแรงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
ดีน คริสเวลล์ ผู้อำนวยการหน่วยงานด้านการบรรเทาภัยพิบัติของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ Federal Emergency Management Agency หรือ FEMA กล่าวกับรายการ State of the Union ของสถานีโทรทัศน์ CNN ว่า “กระแสลมรุนแรงขึ้นและอันตรายยิ่งขึ้น” และว่า “คุณไม่มีทางรู้ว่ามันจะมุ่งหน้าไปทางไหน”
ทางการท้องถิ่นในแคลิฟอร์เนียแสดงความกังวลว่าไฟอาจโหมลุกลามในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่มาก และอาจเข้าเผาผลาญสถานที่สำคัญ รวมทั้ง J. Paul Getty Museum ที่เก็บผลงานศิลปะชื่อดังมากมาย และ University of California วิทยาเขตลอสแอนเจลิส
ไฟป่าลอสแอนเจลิส ดำเนินมาเป็นวันที่ 6 แล้ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 16 ราย ซึ่งทางการกังวลว่าจะพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมโดยทีมสำรวจและสุนัขดมกลิ่น ในพื้นที่ที่ถูกไฟป่าเผาราบ
วุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนีย อดัม ชิฟฟ์ ให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่าการขับรถผ่านชุมชนที่เสียหายจากไฟป่า “ทำให้นึกถึงการเยือนพื้นที่สงครามจริง ๆ ทั้งชุมชนหายไปกับตา เราไม่เคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน” และว่ามีความเสียหายอย่างมาก
ด้านแกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ให้สัมภาษณ์ในรายการ Meet the Press ของสถานีโทรทัศน์ NBC ว่า ไฟป่าครั้งนี้อาจถือเป็นภัยธรรมชาติที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน “ในแง่ของความสูญเสียที่เกิดขึ้น ในแง่ของขนาดและความเสียหาย”
การประเมินเบื้องต้นของเว็บไซต์ด้านสภาพอากาศ AccuWeather ระบุว่า ความเสียหายและความสูญเสียทางเศรษฐกิจของไฟป่าครั้งนี้ อยู่ที่ราว 135,000 – 150,000 ล้านดอลลาร์ และมูลค่าความเสียหายส่วนใหญ่มาจากบ้านเรือนจำนวนมากที่ถูกเผาราบทั้งหมดนั้น ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ราคาแพงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย นิวซัม เรียกร้องให้มีการตรวจสอบเส้นทางที่ไฟยังคงลุกไหม้ ในระหว่างที่นักผจญเพลิงยังอยู่ในช่วงเวลาที่เกิดการขาดแคลนน้ำในการดับเพลิงที่ลุกลามอย่างรวดเร็วเกินควบคุม โดยเมื่อวันศุกร์นิวซัมได้สั่งการให้ทางการระดับรัฐตรวจสอบว่าเหตุใดอ่างเก็บน้ำขนาด 440 ล้านลิตรจึงใช้งานไม่ได้ในยามจำเป็นเช่นนี้
ในวันเสาร์ นักผจญเพลิงพยายามเข้าถึงพื้นที่ไฟป่าใหญ่ที่สุดในลอสแอนเจลิส ที่เริ่มเปลี่ยนทิศทางและขยายวงกว้างประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร และมีการคาดการณ์ว่ากระแสลม Santa Ana ที่เป็นต้นตอของไฟป่าที่โหมหนักจะกลับมาในพื้นที่อีกครั้ง
คริสเตียน ลิตซ์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของ Cal Fire กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันเสาร์ว่า จำเป็นต้องเร่งมืออย่างหนักในการควบคุมเพลิง
ขณะที่สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า กระแสลมยกระดับขึ้นในค่ำคืนวันเสาร์และวันอาทิตย์ และจะยกระดับอีกครั้งในค่ำวันจันทร์และอังคาร ที่ความเร็วลมตั้งแต่ 48-112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ตอนนี้ไฟป่า 4 จุดในลอสแอนเจลิส ได้เผาผลาญพื้นที่มากกว่า 160 ตารางกิโลเมตร ไฟเข้าทำลายอาคารสิ่งก่อสร้างมากกว่า 12,000 แห่ง ผู้คนกว่า 150,000 คนอพยพจากบ้านเรือน และมีรายงานผู้คนราว 700 ชีวิตต้องย้ายมาอยู่ในศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยไฟป่า 9 แห่งในพื้นที่ โดยการสอบสวนสาเหตุไฟป่าทั้ง 4 พิกัดยังคงดำเนินต่อไป
ทางการระบุว่า สามารถควบคุมไฟป่า 2 จุดจาก 4 จุด ได้ประมาณ 76-90% และอีก 2 จุดที่เหลือควบคุมเพลิงไปได้ราว 11-15% เท่านั้น โดยไฟป่า Palisades fire ซึ่งเป็นไฟป่าใหญ่ที่สุดในพื้นที่ตอนนี้ สามารถควบคุมเพลิงไปได้เพียง 11% เตรียมมุ่งหน้าไปยังทางหลวงสายสำคัญ Interstate 405 และเข้าไปยังพื้นที่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่จำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทีมนักผจญเพลิงจากทั่วแคลิฟอร์เนีย และอีก 9 รัฐช่วยกันควบคุมเพลิง โดยมีรถดับเพลิง 1,354 คัน เครื่องบินดับเพลิง 84 ลำ และเจ้าหน้าที่กว่า 14,000 นาย อีกทั้งยังมีนักผจญเพลิงจากเม็กซิโกเข้าร่วมในปฏิบัติการนี้ด้วย
มีเนื้อหาบางส่วนจากเอพี
กระดานความเห็น