การกระทบกระเทือนทางศีรษะเป็นปัญหาที่พบบ่อยในการเล่นกีฬาอเมริกันฟุตบอลและกีฬาที่มีการปะทะประเภทอื่นๆ
อาการสมองกระทบกระเทือนนั้นเกิดขึ้นได้จากการที่ศีรษะถูกกระแทกอย่างแรง หรือเกิดจากการที่ร่างกายถูกกระแทกจนทำให้ศีรษะเคลื่อนไปมา ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในสมองและบางครั้งยังทำลายเซลล์สมองอีกด้วย
ในสหรัฐฯ อัตราการถูกกระทบกระเทือนทางสมองนั้นสูงมากในหมู่นักเรียนมัธยมปลายที่เล่นกีฬาอเมริกันฟุตบอลมากกว่านักกีฬาประเภทอื่นๆ
แต่การศึกษาครั้งใหม่ชี้ให้เห็นว่าอาการบาดเจ็บทางสมองเหล่านี้กำลังลดน้อยลงในหมู่นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลในระดับมัธยมปลายในระหว่างการฝึกซ้อมก่อนการแข่งขัน นอกจากนี้ยังพบว่าการที่ศีรษะถูกกระทบกระแทกซ้ำๆ ลดน้อยลงในกีฬาทุกประเภทอีกด้วย
ในการศึกษาครั้งนี้ นักวิจัยได้ศึกษารายงานการบาดเจ็บของนักกีฬาโรงเรียนมัธยมปลาย 20 ประเภทที่เริ่มขึ้นในปีการศึกษา 2556-2557 และสิ้นสุดลงในปีการศึกษา 2560-2561
โดยรวมแล้วมีรายงานการถูกกระทบกระเทือนทางศีรษะ 9,542 ครั้งในช่วงระยะเวลาที่ทำการศึกษาสำหรับอัตราการบาดเจ็บโดยรวมนั้นมีอัตราส่วน การบาดเจ็บที่ศีรษะ 4.17 ครั้งต่อการบาดเจ็บของทั้งหมดของนักกีฬา 10,000 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยชี้ว่าอัตราการบาดเจ็บที่ศีรษะในวันแข่งอเมริกันฟุตบอลมีเพิ่มมากขึ้นในช่วงระหว่างการศึกษา รายงานเรื่องนี้ถูกตีพิมพ์ออนไลน์ในวารสาร Pediatrics ของสถาบันกุมารเวชศาสสตร์อเมริกัน
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการบาดเจ็บที่ศีรษะที่มีเพิ่มมากขึ้นในการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลนั้น เป็นเพราะมีการบาดเจ็บเพิ่มมากขึ้น หรือว่ามีการรายงานการบาดเจ็บเพิ่มมากขึ้นกันแน่ แต่ถึงอย่างไรการบาดเจ็บในการฝึกซ้อมก็เริ่มลดน้อยลง และอัตราการถูกกระแทกที่ศีรษะซ้ำๆ ก็ลดลงในกีฬาทุกประเภทของโรงเรียนมัธยมปลายด้วย โดยเฉพาะในกีฬาอเมริกันฟุตบอล อัตราที่ลดลงนั้นจะเห็นได้ชัดที่สุด
Avinash Chandran นักวิจัยที่มหาวิทยาลัย North Carolina ที่เมือง Chapel Hill ซึ่งเป็นผู้ช่วยจัดทำรายงานฉบับนี้กล่าวว่า อัตราการบาดเจ็บที่ลดลงนี้อาจเกิดจากนโยบายต่างๆ เช่นการบังคับให้หยุดเล่นทันทีหลังจากที่ถูกกระแทกที่ศีรษะ และมีข้อบังคับที่เข้มงวดในการที่จะให้นักกีฬากลับลงสนาม
ทั้งนี้การศึกษายังมีข้อจำกัด เพราะรายงานการบาดเจ็บที่ได้รับจะมาจากผู้ฝึกสอนนักกีฬาเท่านั้น ดังนั้นข้อมูลจากการฝึกซ้อมและการแข่งอาจไม่ได้แสดงข้อมูลอาการบาดเจ็บทั้งหมด
Monica Vavilala แพทย์และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและป้องกันการบาดเจ็บ Harborview Injury Prevention and Research Center ที่มหาวิทยาลัยวอชิงตันในนครซีแอตเทิล ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการศึกษานี้กล่าวว่าปัญหาเรื่องการบาดเจ็บที่ศีรษะนั้นลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากทุกๆ รัฐมีกฎหมายบังคับในการที่นักกีฬาจะกลับลงสนาม ซึ่งอย่างน้อยก็ช่วยกระตุ้นให้ทางโรงเรียนและทีมนักกีฬาให้ความสนใจกับปัญหาเรื่องการที่ศีรษะถูกกระทบกระเทือน และควรให้นักกีฬาพักผ่อน และประเมินอาการก่อนที่จะให้กลับเข้าการแข่งขัน
ในกีฬาอเมริกันฟุตบอล ซึ่งพบปัญหานี้บ่อยที่สุด ทางโรงเรียนต่างให้ความสนใจกับคุณภาพของอุปกรณ์ป้องกันเช่นหมวกกันกระแทกสำหรับนักกีฬา ทำให้การแข่งขันปลอดภัยกว่าแต่ก่อน แต่ทว่านักกีฬาทุกคนก็ไม่ได้รับหมวกกันน็อกที่มีคุณภาพแบบเดียวกันเสมอไป
Monica Vavilala กล่าวทิ้งท้ายว่า ตามความกดดันที่จะเอาชนะด้วยความพยายามทั้งหมดที่มีอยู่ มักจะทำให้นักกีฬาละเลยเรื่องความปลอดภัย ดังนั้นนักกีฬาอาจไม่ยอมออกจากสนามเมื่อพวกได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ และอาจกลับลงสนามในขณะที่ยังไม่หายดี