ถั่วเป็นอาหารสำคัญสำหรับคนหลายร้อยล้านคนทั่วโลกมานานหลายศตวรรษแล้ว ในทวีปแอฟริกาและทวีปอเมริกาใต้ ถั่วเป็นอาหารหลักของคนที่นั่นและบางครั้งเป็นแหล่งโปรตีนเพียงอย่างเดียวที่มีอยู่ในชุมชน
แต่ทีมนักวิจัยชี้ว่า อุณหภูมิโลกจะร้อนขึ้นไปอีกในอนาคตและถั่วสายพันธุ์ต่างๆ อาจจะเสี่ยงต่อความอยู่รอด คุณ Steve Beebe นักวิจัยเกี่ยวกับถั่วแห่งหน่วยงานวิจัยเกี่ยวกับความมั่นคงทางด้านอาหาร CGAIR กล่าวว่านั่นเป็นเพราะว่าถั่วเป็นพืชที่มีต้นกำเนิดในสภาพอากาศที่เย็น ดังนั้นภาวะโลกร้อนอาจจะส่งผลเสียรุนแรงแก่ถั่วพันธุ์ต่างๆ
คุณ Beebe นักวิจัยกล่าวว่าถั่วอาจจะเผชิญกับสภาวะอากาศที่ร้อนขึ้นในอนาคตหากคนเราไม่ระมัดระวัง เขากล่าวว่าได้ประมาณการณ์ว่าภายในชั่วอายุคนหนึ่งรุ่น หากยังไม่หาทางป้องกัน โลกเราอาจจะสูญเสียพื้นที่ปลูกถั่วไปราว 50 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลก เขากล่าวว่าถั่วเป็นพืชที่ไม่ทนทานต่อสภาวะอากาศร้อน ต่างจากมันสำปะหลังและข้าวโพด
แต่เมื่อไม่นานมานี้ ทางหน่วยงานวิจัยความมั่นคงด้านอาหาร CGAIR ประกาศว่าได้ค้นพบถั่วสายพันธุ์ใหม่ที่ทนทานต่ออากาศที่ร้อนขึ้น 2-3 องศาเมื่อเทียบกับถั่วสายพันธุ์ทั่วไป
ถั่วสายพันธุ์ใหม่นี้เป็นการผสมข้ามพันธุ์กับถั่วเทปารี (tepary bean) ซึ่งเป็นถั่วเม็ดเล็กสายพันธุ์ที่ครั้งหนึ่งชนเผ่าอเมริกันพื้นเมืองเคยปลูก คุณ Beebe นักวิจัยกล่าวว่า ถั่วสายพันธุ์ใหม่ที่ทนต่ออากาศร้อนนี้สามารถทนต่ออากาศที่ร้อนถึง 23 องศาในช่วงกลางคืนในขณะที่ถั่วสายพันธุ์ทั่วไปจะทนความร้อนได้ถึงแค่ 18-19 องศาเท่านั้น
คุณ Beebe แห่ง CGAIR ชี้ว่าถั่วสายพันธุ์ใหม่นี้ปรับตัวต่อสภาพอากาศที่ร้อนได้เองตามธรรมชาติ เขากล่าวว่าทีมวิจัยค้นพบคุณสมบัติพิเศษนี้ในถั่วที่มีอยู่แล้ว เพียงแต่นำไปผสมข้ามพันธุ์กับถั่วชนิดอื่นๆ ได้เกือบทุกชนิดเพื่อพัฒนาถั่วสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่ทนต่ออากาศร้อน
ในขั้นต่อไป คุณ Beebe นักวิจัยถั่วกล่าวว่าทีมวิจัยจะทำการผสมถั่วที่ทนทานต่อความร้อนกับถั่วสายพันธุ์อื่นๆ ที่ผู้บริโภคนิยมรับประทานกันอยู่แล้ว ก่อนที่จะนำไปผสมข้ามพันธุ์กับถั่วที่ปลูกในทวีปแอฟริกาและอเมริกาใต้ต่อไป
นอกจากนี้ หน่วยงานวิจัยความมั่นคงทางอาหาร CGAIR ยังกำลังพยายามผสมสายพันธุ์ถั่วพันธุ์ใหม่ที่ทนทานต่อความแห้งแล้งและภาวะน้ำท่วม ในขณะที่พยายามหาทางเพิ่มปริมาณธาตุเหล็กในถั่วให้มากขึ้นกว่าเดิมด้วยเพื่อให้ถั่วเป็นพืชที่มีคุณค่าต่อร่างกายมากขึ้นไปอีก
