โยโย่ คอดิล เด็กชายอายุเจ็ดขวบกับแม่แอนนาต้องมาโรงพยาบาล Johns Hopkins ในบัลติมอร์บ่อยครั้ง
คุณแอนนา คอดิล กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าวันนี้มาโรงพยาบาลเพราะลูกชายต้องเข้ารับการรผ่าตัดทวารใหม่ โยโย่เป็นโรคนี้ตั้งแต่อายุห้าวัน
เธอบอกว่าเมื่อหมออนุญาติให้โยโย่ลุกเดินไปมาได้ ลูกชายจะเดินไปที่สวนของโรงพยาบาลทันที สวนนี้เรียกว่า Little Prince Garden ซึ่งเป็นพื้นที่ภายนอกอาคารที่ได้รับการออกแบบตามเรื่องราวในหนังสือเด็กแนวคลาสสิก ในสวนแห่งนี้ โยโย่จะปีนป่ายก้อนลูกอุกาบาทที่ทำจากไฟเบอร์กลาส โยนนกพลาสติกให้บินข้ามประติมากรรมเเขวนแนวยุคเพื่ออนาคตและชมดอกไม้พันธุ์ต่างๆที่เลือกมาปลูกสำหรับเด็กๆโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นดอกทานตะวัน ดอกโฮย่าลูกศรหรือ shooting stars และดอกกุหลาบชนิดต่างๆ
คุณแอนนา คอดิล กล่าวว่า สวนเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจแก่คนไข้ ระยะเวลาที่คนใข้เด็กใช้ในสวน ถึงแม้ว่าจะเป็นระยะเวลาสั้นๆ พวกเขาจะได้พักจิตใจจากความเครียดจากการรักษาพยาบาล
ด้านคุณแพททริส บริลสกี้ ผู้อำนวยการศูนย์ผู้ป่วยเด็กที่โรงพยาบาล Johns Hopkins กล่าวว่าการได้พักผ่อนหย่อนใจในสวนสำคัญมาก โดยเฉพาะคนไข้เด็กเพราะการรักษาตัวในโรงพยาบาลสร้างความเครียดแก่เด็ก
เธอบอกว่าการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเด็ก เด็กๆเกิดความกลัวต่างๆนานาเมื่อต้องมาโรงพยาบาล นี่ทำให้โรงพยาบาลและหน่วยงานบริการด้านสุขภาพต่างพยายามหาทางลดความกลัวในเด็กด้วยการปรับสภาพแวดล้อม สวนบำบัดในโรงพยาบาลจึงช่วยให้เด็กได้ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ได้จับต้นไม้ต้นหญ้า ดูนก ชมผีเสื้อ และได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลที่เกิดขึ้นในสวน
สวน Little Prince Garden เป็นหนึ่งในสวนบำบัดสวนแห่งของโรงพยาบาล Johns Hopkins สวนทั้งสามแห่งเปิดให้ทุกคนได้เข้าไปชมตั้งแต่คนไข้ทั้งเด็กถึงผู้ใหญ่ สมาชิกครอบครัวของคนไข้และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
สวนบำบัดทั้งสามจุดของโรงพยาบาล Johns Hopkins ออกแบบโดยคุณซูซาน ไวเล่อร์ เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า
คุณไวเลอร์กล่าวว่าสวนบำบัดในโรงพยาบาลและคลีนิคเพิ่งมีขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ แต่แนวคิดในการใช้สวนเพื่อการฟื้นฟูมีมาแต่โบราณ อย่างสวนแขวนยุคบาบีลอนเมื่อหกพันปีก่อนคริสตกาล สวนของชาวเมโสโปเตเมียและชาวเมดิเตอร์เรเนียนทั้งในช่วงวัฒนธรรมที่ต่างกันไปตามศาสนาทั้งคริสตศาสนาและอิสลาม
นอกเหนือไปจากพันธุ์ไม้ที่เลือกสรรมาเพื่อสร้างความรู้สึกถึงแสง การได้ยินเสียงและการได้กลิ่นแล้ว ยังมีการใช้น้ำทั้งในรูปของสระน้ำและน้ำพุ การจัดวางตำแหน่งก็มีความสำคัญอย่างมากในสวนเพื่อการบำบัดฟื้นฟู คุณไวเลอร์กล่าวว่าองค์ประกอบทุกอย่างในสวนบำบัดมีจุดประสงค์เพื่อการช่วยฟื้นฟูทั้งหมด
เธอกล่าวว่าสวนบำบัดต้องจัดให้มีมีแสงอาทิตย์ส่องอย่างเพียงพอ มีร่มเงาเหมาะสม มีสีสันเเละการจัดองค์ประกอบตั้งแต่ระดับคลุมพื้นดินไปจนถึงระดับต้นไม้ มีสีสันที่ผสมผสานกัน ไม่ใช้สีเดียวโดดๆ สีขาวกับสีน้ำเงินมีผลช่วยผู้ป่วยคลายความเครียดลง และเธอบอกว่าหากจัดสวนได้อย่างเหมาะสม เหมาะเจาลงตัว พลังธรรมชาตินี้จะช่วยเยียวยาจิตใจผู้ป่วยได้อย่างไม่น่าเชื่ิอ
คุณแอนนา คอดิล กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าวันนี้มาโรงพยาบาลเพราะลูกชายต้องเข้ารับการรผ่าตัดทวารใหม่ โยโย่เป็นโรคนี้ตั้งแต่อายุห้าวัน
เธอบอกว่าเมื่อหมออนุญาติให้โยโย่ลุกเดินไปมาได้ ลูกชายจะเดินไปที่สวนของโรงพยาบาลทันที สวนนี้เรียกว่า Little Prince Garden ซึ่งเป็นพื้นที่ภายนอกอาคารที่ได้รับการออกแบบตามเรื่องราวในหนังสือเด็กแนวคลาสสิก ในสวนแห่งนี้ โยโย่จะปีนป่ายก้อนลูกอุกาบาทที่ทำจากไฟเบอร์กลาส โยนนกพลาสติกให้บินข้ามประติมากรรมเเขวนแนวยุคเพื่ออนาคตและชมดอกไม้พันธุ์ต่างๆที่เลือกมาปลูกสำหรับเด็กๆโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นดอกทานตะวัน ดอกโฮย่าลูกศรหรือ shooting stars และดอกกุหลาบชนิดต่างๆ
คุณแอนนา คอดิล กล่าวว่า สวนเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจแก่คนไข้ ระยะเวลาที่คนใข้เด็กใช้ในสวน ถึงแม้ว่าจะเป็นระยะเวลาสั้นๆ พวกเขาจะได้พักจิตใจจากความเครียดจากการรักษาพยาบาล
ด้านคุณแพททริส บริลสกี้ ผู้อำนวยการศูนย์ผู้ป่วยเด็กที่โรงพยาบาล Johns Hopkins กล่าวว่าการได้พักผ่อนหย่อนใจในสวนสำคัญมาก โดยเฉพาะคนไข้เด็กเพราะการรักษาตัวในโรงพยาบาลสร้างความเครียดแก่เด็ก
เธอบอกว่าการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเด็ก เด็กๆเกิดความกลัวต่างๆนานาเมื่อต้องมาโรงพยาบาล นี่ทำให้โรงพยาบาลและหน่วยงานบริการด้านสุขภาพต่างพยายามหาทางลดความกลัวในเด็กด้วยการปรับสภาพแวดล้อม สวนบำบัดในโรงพยาบาลจึงช่วยให้เด็กได้ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ได้จับต้นไม้ต้นหญ้า ดูนก ชมผีเสื้อ และได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลที่เกิดขึ้นในสวน
สวน Little Prince Garden เป็นหนึ่งในสวนบำบัดสวนแห่งของโรงพยาบาล Johns Hopkins สวนทั้งสามแห่งเปิดให้ทุกคนได้เข้าไปชมตั้งแต่คนไข้ทั้งเด็กถึงผู้ใหญ่ สมาชิกครอบครัวของคนไข้และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
สวนบำบัดทั้งสามจุดของโรงพยาบาล Johns Hopkins ออกแบบโดยคุณซูซาน ไวเล่อร์ เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า
คุณไวเลอร์กล่าวว่าสวนบำบัดในโรงพยาบาลและคลีนิคเพิ่งมีขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ แต่แนวคิดในการใช้สวนเพื่อการฟื้นฟูมีมาแต่โบราณ อย่างสวนแขวนยุคบาบีลอนเมื่อหกพันปีก่อนคริสตกาล สวนของชาวเมโสโปเตเมียและชาวเมดิเตอร์เรเนียนทั้งในช่วงวัฒนธรรมที่ต่างกันไปตามศาสนาทั้งคริสตศาสนาและอิสลาม
นอกเหนือไปจากพันธุ์ไม้ที่เลือกสรรมาเพื่อสร้างความรู้สึกถึงแสง การได้ยินเสียงและการได้กลิ่นแล้ว ยังมีการใช้น้ำทั้งในรูปของสระน้ำและน้ำพุ การจัดวางตำแหน่งก็มีความสำคัญอย่างมากในสวนเพื่อการบำบัดฟื้นฟู คุณไวเลอร์กล่าวว่าองค์ประกอบทุกอย่างในสวนบำบัดมีจุดประสงค์เพื่อการช่วยฟื้นฟูทั้งหมด
เธอกล่าวว่าสวนบำบัดต้องจัดให้มีมีแสงอาทิตย์ส่องอย่างเพียงพอ มีร่มเงาเหมาะสม มีสีสันเเละการจัดองค์ประกอบตั้งแต่ระดับคลุมพื้นดินไปจนถึงระดับต้นไม้ มีสีสันที่ผสมผสานกัน ไม่ใช้สีเดียวโดดๆ สีขาวกับสีน้ำเงินมีผลช่วยผู้ป่วยคลายความเครียดลง และเธอบอกว่าหากจัดสวนได้อย่างเหมาะสม เหมาะเจาลงตัว พลังธรรมชาตินี้จะช่วยเยียวยาจิตใจผู้ป่วยได้อย่างไม่น่าเชื่ิอ