Jamison Gove นักสมุทรศาสตร์วิทยาแห่งสถาบันสมุทรศาสตร์วิทยาเเละชั้นบรรยากาศโลกเเห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NOAA (National Oceanic and Atmospheric Administration) กล่าวว่า ในปี 2015 ฮาวายเจอกับภาวะน้ำทะเลอุ่นขึ้นสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
เขาบอกว่าที่สำคัญที่สุด อุณหภูมิของน้ำทะเลในฮาวายที่ร้อนขึ้นในปีนี้สูงกว่าในปีค.ศ. 2015
ทีมนักวิจัยซึ่งใช้อุปกรณ์ไฮเทคในการเฝ้าดูแนวปะการังของฮาวาย พบสัญญาณระยะเริ่มต้นของภาวะกัดขาวของปะการังในบริเวณ Papa Bay เเละในจุดอื่น ๆ ซึ่งมีต้นเหตุจากคลื่นน้ำทะเลอุ่นขึ้น และมีการพยากรณ์ว่า น้ำทะเลในมหาสมุทรเเปซิฟิกทางเหนือจะยังส่งคลื่นความร้อนไปยังบริเวณน่านน้ำของเกาะฮาวายต่อไปจนถึงเดือนตุลาคม
Gove กล่าวว่า อุณหภูมิของน้ำทะเลได้เพิ่มสูงมาเป็นระยะเวลานาน ปัญหาไม่ได้อยู่เพียงเเค่ว่าน้ำทะเลอุ่นขึ้นเท่าใดเท่านั้น เเต่น้ำทะเลจะคงความอุ่นไปนานเเค่ไหน
แนวปะการังทั่วโลกมีความสำคัญมากเพราะนอกจากจะเป็นแหล่งที่อยู่ของปลาเเล้ว ยังเป็น แหล่งอาหารเเละยาของมนุษย์อีกด้วย แนวปะการังยังทำหน้าที่เป็นแนวกั้นตามธรรมชาติเเก่แนวชายฝั่งที่ช่วยลดเเรงกระแทกของคลื่นทะเล เเละช่วยปกป้องแนวชายฝั่งที่มีคนอาศัยอยู่หนาเเน่นจากคลื่นทะเลที่สูงขึ้นในช่วงที่เกิดพายุเฮอร์ริเคน
ในฮาวาย แนวปะการังยังมีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจอีกด้วย ธุรกิจการท่องเที่ยวเติบโตเนื่องจากเเนวปะการังช่วยสร้างเเละปกป้องชายหาดที่สวยงามเเละขึ้นชื่อของฮาวาย มีจุดดำน้ำดูปลาเเละกีฬาดำน้ำ เเละยังช่วยสร้างคลื่นที่ดึงดูดนักเล่นกระดานโต้คลื่นจากทั่วโลกให้ไปเที่ยวฮาวาย
อย่างไรก็ตาม Gove ย้ำว่าอุณหภูมิของน้ำทะเลไม่ได้อุ่นขึ้นไปทั่วทั้งรัฐฮาวาย เขากล่าวว่าทิศทางลม กระเเสน้ำทะเล เเละเเม้เเต่ลักษณะต่าง ๆ ทางภูมิศาสตร์ บนแผ่นดินล้วนมีผลต่อการเกิดคลื่นความร้อนจุดต่าง ๆ ในทะเล
Gove กล่าวว่า ภูเขาไฟลูกใหญ่สองลูกบนเกาะ Big Island ที่กันลมพัดผ่าน ทำให้ฝั่งตะวันตกของเกาะซึ่งเป็นที่ตั้งของ Papa Bay กลายเป็นจุดที่ร้อนที่สุดจุดหนึ่งของรัฐ เเละเป็นจุดที่เกิดภาวะปะการังกัดขาวมากที่สุดจุดหนึ่ง
เขาบอกว่า ในบริเวณอ่าวเเห่งนี้เกิดภาวะกัดขาวกับปะการังเกือบทุกสายพันธุ์ เเละปะการังเหล่านี้ยังอยู่ในสภาพที่กำลังฟื้นตัวจากภาวะกัดขาวเมื่อ 4 ปีเเล้ว เเละอาจทนทานต่อคลื่นน้ำทะเลร้อนครั้งใหม่ได้ไม่ดีนัก
ทาง NOAA ชี้ว่า คลื่นน้ำร้อนในทะเลเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน รวมทั้งสภาพที่อากาศมีความดันต่ำเป็นเวลานาน ระหว่างฮาวายกับอลาสก้าที่ทำให้ความเเรงของลมอ่อนลง ซึ่งทำให้อุณหภูมิบนผิวหน้าน้ำทะเลทั่วมหาสมุทรแปซิฟิกทางเหนืออุ่นขึ้น
สำหรับปะการัง น้ำทะเลร้อนสร้างความเครียดเเก่ปะการัง เเละหากเรื้อรังต่อไปก็จะทำให้ปะการังตายลง ซึ่งจะทำให้เเนวปะการังล่มสลาย
Greg Asner นักนิเวศวิทยาเเละผู้อำนวยการของ Center for Global Discovery and Conservation Science มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแอริโซน่า กล่าวว่า ปะการังเกือบทุกสายพันธุ์ที่ทีมงานได้เฝ้าติดตามดู เกิดภาวะกัดขาวบางส่วน เขาเเละทีมงานได้ดำน้ำลงไปสำรวจปะการังในอ่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้
Asner กล่าวว่า ตัวเซ็นเซอร์ต่าง ๆ เเสดงให้เห็นว่า น้ำในอ่าวนี้อุ่นขึ้นกว่าอุณหภูมิปกติ ในช่วงนี้ของปีประมาณ 3.5 องศาฟาเรนไฮท์ เขากล่าวว่า หลังภาวะคลื่นน้ำร้อนในทะเลยุติลง ทีมงานจะรู้ชัดเจนมากขึ้นว่าต้องวางแผนฟื้นฟูปะการังในจุดใดบ้าง