อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินสายหาเสียงในรัฐสมรภูมิที่มีความสำคัญยิ่งอย่างเพนซิลเวเนียในช่วงสุดสัปดาห์ และหนึ่งในจุดหมายปลายทางครั้งนี้คือเขตปกครองที่มีประชากรราว 350,000 คน ท่ามกลางเวลาเข้าสู่คูหาที่งวดเข้ามาเรื่อย ๆ
ประชาชนหลักพันคนส่งเสียงเฮต้อนรับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ขึ้นเวทีหาเสียงที่ท่าอากาศยานภูมิภาคอาร์โนลด์ พาล์มเมอร์ เมืองแลโทรบ รัฐเพนซิลเวเนีย ในเวลา 18.00 น.
นี่คือการเดินสายหาเสียงในเขตปกครองของทรัมป์เป็นแห่งที่สี่ของทรัมป์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ และเกิดขึ้นราวหนึ่งสัปดาห์หลังรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส เดินทางมาเยือนเมืองเอียรี รัฐเพนซิลเวเนียเพื่อหาเสียง
ทรัมป์ใช้เวลาในค่ำคืนวันเสาร์เน้นย้ำข้อเสนอทางการเมืองหลายข้อ เช่น สนับสนุนอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมัน ลดภาษีผู้ผลิตสินค้าในสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีกับจีน การนำผู้อพยพออกจากสหรัฐฯ ครั้งใหญ่ ไม่เพียงเท่านั้นยังใช้เวลาโจมตีคามาลา แฮร์ริส คู่แข่งชิงตำแหน่งผู้นำสูงสุดทั้งในระดับตัวบุคคลและเรื่องนโยบาย
คุมเข้มความปลอดภัย
แม้งานเป็นพื้นที่เปิด แต่ว่ามีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ทั้งการตรวจตราสัมภาระผู้เข้าร่วมงานโดยตำรวจและหน่วย Secret Service การจัดตู้คอนเทนเนอร์สูง 20 ฟุตมาล้อมรอบพื้นที่งานเพื่อสร้างแนวป้องกันอาณาบริเวณ เจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธปืนสังเกตการณ์ตามจุดสูงข่ม รวมถึงการใช้สุนัขดมกลิ่น
แลโทรบ เป็นส่วนหนึ่งของเขตปกครองเวสต์มอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเขตปกครองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 8 ของรัฐเพนซิลเวเนียจากทั้งหมด 67 แห่ง มีประชากรจำนวน 354,663 คน โดยแทบทั้งหมดเป็นคนขาว ตามข้อมูลสำนักงานสถิติสหรัฐฯ
การเลือกตั้งผู้นำสูงสุดเมื่อปี 2020 ทรัมป์ได้รับคะแนนนิยมที่เวสต์มอร์แลนด์มากกว่าไบเดน ที่ราว 130,000 เสียงต่อ 72,000 เสียง ตามข้อมูลผลโหวตอย่างเป็นทางการ
ผู้ร่วมงาน แม้จำนวนมากจะเป็นคนขาว แต่ก็มีชาวเอเชียนอเมริกัน อดีตผู้อพยพจากจีน รวมถึงกลุ่มคนต่างชาติผู้นับถือศาสนาคริสต์ก็มาแสดงจุดยืนสนับสนุนทรัมป์ในวาระที่ตนเองเห็นด้วย เช่น เรื่องการห้ามทำแท้ง
อุตสาหกรรมเหล็กกล้าที่เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมขึ้นชื่อของเพนซิลเวเนีย ก็มีแรงงานและสหภาพแรงงานเดินทางมาสนับสนุนทรัมป์เช่นกัน
การสอบถามพูดคุยกับผู้มาร่วมงาน หลายคนบอกว่าไม่ได้มาครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่ติดตามการเดินสายหาเสียงมาจากที่อื่น
อาสาสมัครในงาน ทีมงานจัดการหาเสียง รวมถึงทรัมป์เองได้เน้นย้ำให้ฐานเสียงเห็นความสำคัญของการลงคะแนนเสียงทั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน และการลงคะแนนเสียงล่วงหน้าทางไปรษณีย์
ในส่วนผู้ขึ้นเวทีปราศรัย มีทั้งอดีตผู้เล่นอเมริกันฟุตบอลทีมพิทส์เบิร์ก สตีลเลอร์ ทีมดังของรัฐ สมาชิกสภาคองเกรส ตัวแทนกลุ่มสหภาพแรงงานเหล็กกล้า ครอบครัวของทหารอเมริกันที่เสียชีวิตในอัฟกานิสถาน และเดวิด แมคคอร์มิค ผู้สมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งวุฒิสภาของรัฐเพนซิลเวเนียจากพรรครีพับลิกัน
หลังจากคืนวันเสาร์ ทรัมป์จะเดินสายทำกิจกรรมต่อในรัฐเพนซิลเวเนีย และก่อนหน้านี้ก็ได้มาที่เขตปกครองที่ติดกับเวสต์มอร์แลนด์มาแล้วสามแห่ง สะท้อนถึงความสำคัญของรัฐสมรภูมิแห่งนี้
เพนซิลเวเนียคือหนึ่งในกลุ่มรัฐที่ถือว่าเป็น battleground states หรือ รัฐสมรภูมิ ที่มีทั้งหมด 7 รัฐในการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้แก่ รัฐเพนซิลเวเนีย มิชิแกน วิสคอนซิน จอร์เจีย แอริโซนา เนวาดา และนอร์ธแคโรไลนา
แต่สิ่งที่ทำให้แคนดิเดตให้ความสำคัญกับเพนซิลเวเนีย คือการเป็นรัฐที่มีจำนวนผู้แทนเลือกตั้ง หรือ electoral college มากที่สุดที่ 19 คน ยังถือเป็นรัฐที่คะแนนเสียงมีโอกาสพลิกเปลี่ยนเป็นของพรรคใดพรรคหนึ่งมากที่สุด
ไม่เพียงเท่านั้น สาธารณชนและสื่อยังให้ความสนใจกับรัฐนี้มากขึ้นหลังทรัมป์ตกเป็นเหยื่อการลอบสังหารที่เมืองบัตเลอร์ในรัฐแห่งนี้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ในการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ ในอดีต ผู้สมัครที่ชนะในรัฐเพนซิลเวเนียสามารถชนะการเลือกตั้งทั่วประเทศได้ถึง 10 ครั้งจาก 12 ครั้งหลังสุด รวมทั้งโอบาม่าในปี 2012 ทรัมป์เมื่อปี 2016 และไบเดนในปี 2020
กระดานความเห็น