อิสราเอลยืนยันในวันอาทิตย์ว่า กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันเพิ่มอีก 17 คน โดยหนึ่งในนั้นคือ เด็กหญิงชาวอเมริกันวัย 4 ขวบที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุว่า เห็นพ่อแม่ของตนเองเสียชีวิตในระหว่างการโจมตีของฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
รายงานข่าวระบุว่า ตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวมาในวันอาทิตย์นั้นมี อาบิเกล เอดัน หนูน้อยชาวอเมริกัน อยู่ในกลุ่มชาวอิสราเอล 14 คนและชาวไทย 3 คนที่ฮามาสนำตัวส่งให้กับคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ ในวันที่ 3 ของระยะเวลา 4 วันของการประกาศหยุดยิงพักรบระหว่างอิสราเอลและฮามาส
ปธน.ไบเดน ระบุในระหว่างการแถลงข่าวว่า “สิ่งที่เธอ(หนูน้อยอาบิเกล)ประสบมานั้นเป็นสิ่งที่เราไม่อาจจะนึกถึงได้เลย” แสดงความหวังด้วยว่า ตัวประกันชาวอเมริกันอื่น ๆ ได้รับการปล่อยตัวออกมาในเร็ว ๆ นี้
ผู้นำสหรัฐฯ หวังว่าจะมีการขยายเวลาการพักรบเพื่อให้มีการปล่อยตัวประกันเพิ่มขึ้น พร้อมระบุว่า “เราจะไม่หยุด จนกว่าตัวประกันทุกคนจะกลับสู่(ครอบครัวอันเป็น)ที่รักของพวกเขา”
และในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ตามเวลาในสหรัฐฯ ไบเดน ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการปล่อยตัวประกันในช่วงการพักรบ 4 วันซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันอังคารด้วย
ทำเนียบขาวระบุรายละเอียดของการหารือระหว่างสองผู้นำในแถลงการณ์ว่า ปธน.ไบเดน และนายกฯ เนทันยาฮู พูดคุยเกี่ยวกับประเด็นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติมในฉนวนกาซ่าที่ยกระดับเพิ่มสูงขึ้นอยู่ในเวลานี้ พร้อมเปิดเผยว่า “นายกรัฐมนตรี(เนทันยาฮู) ขอบคุณประธานาธิบดี(ไบเดน) สำหรับความพยายามอย่างไม่ลดละในการช่วยเจรจาและดำเนินการตามข้อตกลงนี้” และว่า “ผู้นำทั้งสองยังตกลงกันว่า ภารกิจนี้ยังไม่จบลงและทั้งสองจะเดินหน้าทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อให้มีการปล่อยตัวประกันทั้งหมดออกมา”
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู กล่าวในวันอาทิตย์หลังพบกับหน่วยความมั่นคงในฉนวนกาซ่าโดยย้ำว่าสงครามยังห่างไกลคำว่าสิ้นสุด
ผู้นำอิสราเอลกล่าวว่า "ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งเราได้ และเราเชื่อว่าเรามีความแข็งแกร่ง มีพลัง ความมุ่งมั่นและตั้งใจในการบรรลุเป้าหมายของสงครามนี้ และนั่นคือสิ่งที่เราจะทำต่อไป”
ทั้งนี้ อิสราเอลกล่าวว่า จะมีการขยายเวลาการหยุดพักรบเพิ่มอีก 1 วันเพื่อแลกกับการปล่อยตัวประกันเพิ่มทุก ๆ คน 10 คนจากทั้งหมดกว่า 200 คนที่ฮามาสคุมตัวไว้
โดยภายใต้ข้อตกลงที่ทำไว้นั้น ฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 50 คนแลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ 150 คนที่อยู่ในเรือนจำของอิสราเอล
ก่อนหน้าที่จะมีการปล่อยตัวครั้งล่าสุด เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษา ด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ระบุในการให้สัมภาษณ์กับรายการ This Week ทางสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า ฮามาสยังคงควบคุมตัวชาวอเมริกัน 8 คนและชาวต่างชาติอีก 1 คนที่ถูกจ้างงานโดยสหรัฐฯ ไว้อยู่
นับตั้งแต่ฮามาสทำการโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเข้าใส่อิสราเอลที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คนและมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันไปกว่า 240 คน
อิสราเอลประกาศกร้าวว่า กองทัพของตนจะทำลายล้างกลุ่มติดอาวุธนี้ที่ควบคุมกาซ่าให้หมด ก่อนจะเดินหน้าทิ้งระเบิดและทำการรบภาคพื้นดินเข้าใส่เขตปกครองดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
หน่วยงานด้านสาธารณสุขของกาซ่าระบุว่า จนถึงบัดนี้มีชาวปาเลสไตน์กว่า 14,800 คนถูกสังหารและหลายแสนคนต้องกลายเป็นคนพลัดถิ่น
เมื่อคืนวันเสาร์ กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันทั้งหมด 17 คน ซึ่งประกอบด้วยชาวอิสราเอล 13 คนและชาวไทย 4 คน ก่อนที่ อิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ 39 คนคืนให้
ทั้งนี้ การปล่อยตัวประกันทั้งหมดเกิดขึ้นช้ากว่าที่คาดไว้ หลังกลุ่มติดอาวุธนี้กล่าวหาอิสราเอลว่า ละเมิดข้อตกลงแลกตัวประกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่อิสราเอลออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง
รายงานข่าวระบุว่า ตัวกลางการเจรจาจากกาตาร์และอียิปต์สามารถแก้ไขปัญหาความกังวลของฝ่ายฮามาสได้ สำเร็จ จึงทำให้มีการปล่อยตัวประกันได้ก่อนเที่ยงคืนของวันเสาร์
ในกลุ่มชาวอิสราเอล 13 คนที่ได้รับการปล่อยตัวมานั้นมีเด็ก 7 คนและผู้หญิง 6 คนโดยเด็กนั้นมีอายุตั้งแต่ 3-16 ปี ส่วนผู้หญิงนั้นมีอายุตั้งแต่ 18-67 ปี
คลิปวิดีโอที่ฮามาสเผยแพร่ออกมาแสดงให้เห็นภาพของตัวประกันที่อยู่ในสภาพตัวสั่นกลัว แต่ส่วนใหญ่มีสุขภาพแข็งแรงดี โดยนักรบกลุ่มติดอาวุธที่สวมหน้ากากจำนวนหนึ่งเป็นผู้นำพาตัวประกันทั้งหมดไปยังพาหนะของกาชาดที่พาทุกคนออกจากฉนวนกาซ่าและมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลในอิสราเอล ก่อนจะพาไปพบกับสมาชิกในครอบครัว
ในส่วนของนักโทษชาวปาเลสไตน์ 39 คนที่อิสราเอลปล่อยตัวนั้น โฆษกรัฐบาลกาตาร์ ระบุว่า เป็นเด็ก 33 คนและผู้หญิงหกคน
และในวันอาทิตย์เช่นกัน กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์เปิดเผยว่า กองกำลังอิสราเอลยิงชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 6 คนเสียชีวิตในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมาที่บริเวณเขตเวสต์แบงก์
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก นาตาชา มอสโกวายา ผู้สื่อข่าว วีโอเอ รวมทั้ง เอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์
กระดานความเห็น