จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเฮติซึ่งมีระดับความรุนแรงที่ 7.2 ตามมาตราริกเตอร์ พุ่งขึ้นเป็นกว่า 700 คนในวันอาทิตย์ ขณะที่ยังมีประชาชนไม่น้อยกว่า 1,800 รายที่ได้รับบาดเจ็บ และยังมีผู้สูญหายอยู่เป็นจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่เฮติเปิดเผยว่า แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้ได้สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง และยังมีการสั่นสะเทือนเกิดขึ้นตามมา หรือ อาฟเตอร์ช็อก (aftershock) อีกหลายครั้งนับตั้งแต่เกิดเหตุขึ้นเมื่อวันเสาร์ ใกล้ๆ กับเมือง เปอตีต์-ทรู-เดอ-นีพส์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของประเทศเป็นระยะทางราว 125 กิโลเมตร
นายกรัฐมนตรี อาเรียล อองรี ผู้ซึ่งเพิ่งก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำประเทศเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน กล่าวว่า รัฐบาลเฮติได้สั่งการให้นำส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ประสบภัยเรียบร้อยแล้ว พร้อมระบุว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการค้นหาผู้รอดชีวิตให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และยอมรับด้วยว่า โรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่ประสบเหตุ โดยเฉพาะในเมือง เลส์ คายส์ (Les Cayes) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดใกล้จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหว เริ่มมีปัญหาคนไข้ล้นแล้ว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี อองรี ได้ประกาศภาวะสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศแล้ว
รายงานข่าวระบุว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน และรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส ได้รับทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ในเฮติแล้วตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ และผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่า สหรัฐฯ จะยังคงเป็น “เพื่อนที่ดีที่จะอยู่กับประชาชนชาวเฮติต่อไป” ด้วย
ข้อมูลจากทำเนียบข่าวเปิดเผยด้วยว่า ปธน.ไบเดน ยังได้สั่งการให้หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐฯ (USAID) และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ประสานงานนำส่งความช่วยเหลือไปยังเฮติแล้ว