พนักงานร้านค้าปลีกแฟชั่น H&M ในสเปนพากันหยุดงานประท้วงในวันจันทร์ เพื่อเรียกร้องให้ผู้บริหารให้ปรับขึ้นค่าแรงให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่พุ่งสูง ขณะที่ ปริมาณงานก็เพิ่มขึ้นตั้งแต่มีการปลดพนักงานครั้งใหญ่ช่วงเกิดการระบาดของโควิด-19 ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
การหยุดงานของพนักงานร้านแบรนด์แฟชั่นจากสวีเดนในวันจันทร์เป็นการเคลื่อนไหวประท้วงครั้งที่ 3 ของเดือนนี้ และส่งผลให้ร้านค้าหลักในกรุงมาดริดต้องปิดให้บริการ โดยพนักงานหลายร้อยคนมารวมตัวกันที่หน้าร้านเพื่อเรียกร้องให้บริษัทปรับปรุงสภาพการทำงานให้ดีขึ้น ในช่วงที่ การขายผ่านระบบออนไลน์เข้ามาแทนที่ระบบการขายที่หน้าร้านเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
แอนเจเลส โรดริเกซ โบนินโญ ผู้นำสหภาพแรงงานที่นำการประท้วงนี้บอกกับผู้สื่อข่าวเอพีว่า พนักงานของบริษัทนั้นต้องใช้ชีวิต “อยู่กับเงินเดือนที่ถูกแช่แข็งมานานหลายต่อหลายปี” แต่ตอนนี้ ไม่สามารถรับมือกับสภาพได้แล้วเพราะ “สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ[ในปัจจุบัน] และค่าครองชีพที่เพิ่มสูง”
ทั้งนี้ ภาวะเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูงทั้งในยุโรปและทั่วโลก หลังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจากผลกระทบของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และเพราะสงครามยูเครน-รัสเซีย โดยอัตราเงินเฟ้อในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปนั้นเพิ่มขึ้น 7.1% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
โรดริเกซ โบนินโญ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตัวแทนสหภาพแรงงานและผู้บริหารของ H&M Group เริ่มต้นการเจรจาไกล่เกลี่ยในสัปดาห์นี้แล้ว
เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว พนักงานสัดส่วน 80% ของ H&M Group ในสเปนทำการประท้วงหยุดงานเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ส่งผลให้ร้านค้าจำนวน 100 แห่งต้องปิดให้บริการชั่วคราว ตามข้อมูลจากสหภาพแรงงาน
เอพี ติดต่อไปยัง H&M Group เพื่อขอความเห็นแต่ไม่ได้รับการตอบกลับขณะจัดทำรายงานข่าวนี้
- ที่มา: เอพี