เป็นที่ทราบกันว่าการใช้เวลาอยู่ใกล้สิ่งแวดล้อมมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่นช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิต้านทาน และลดโอกาสการเป็นโรคซึมเศร้า งานวิจัยล่าสุดชี้ว่า การอยู่ใกล้ธรรมชาติของเด็กๆ ยังทำให้พวกเขาพัฒนาทักษะการเรียนรู้ที่รวดเร็วอีกด้วย
นักวิทยาศาสตร์จากเมืองบาเซโลน่าที่สถาบัน Center for Research in Environmental Epidemiology สนใจเกี่ยวกับผลของการอยู่ใกล้ธรรมชาติต่อพัฒนาการของเด็ก พวกเขาเก็บข้อมูลการใช้ชีวิตของเด็กๆที่โรงเรียน 36 แห่ง จำนวน มากกว่า 2,600 คนอายุระหว่าง 7 ถึง 10 ปี และในที่สุดพบเป็นครั้งว่าการพัฒนาด้านการเรียนรู้ของเด็กความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกับพื้นที่สีเขียวตามธรรมชาติรอบๆ ตัวของเด็กๆ
คุณ Jordi Sunyer หนึ่งในผู้ทำวิจัยให้สัมภาษณ์กับวีโอเอว่าการวิเคราะห์อาศัยข้อมูลจากดาวเทียมที่แสดงภาพพื้นที่สีเขียวรอบๆ โรงเรียนที่ทำการวิจัย
เขากล่าวว่าภาพจากดาวเทียมทำให้ทราบถึงระดับความเขียวของพื้นที่และกระบวนการสังเคราะห์แสงว่ามีมากน้อยแค่ไหน จากนั้นก็ดูผลการทดสอบความจำของเด็กๆ ที่โรงเรียนต่างๆ เป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อหาความสัมพันธ์
นักวิจัยสร้างวิธีประมวลผลจากข้อมูลที่ได้มา โดยต้องการทราบว่าสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยพืชชนิดต่างๆ หรืออาจเรียกว่า Green Space นั้น สามารถชี้ได้ถึงการพัฒนาของผลการทำข้อสอบของเด็กๆ ในช่วงหนึ่งปีหรือไม่
นักวิจัยนำปัจจัยอื่นๆ มาวิเคราะห์ด้วย เช่นพื้นฐานทางเศรษฐกิจของมารดา และที่ตั้งของโรงเรียนว่าอยู่ในย่านผู้มีฐานะอย่างไร
ในที่สุดคณะทำงานของคุณ Jordi Sunyer พบว่า เมื่อเด็กอยู่ใกล้พื้นที่สีเขียวมากขึ้น พวกเขามีความจำดีขึ้นราวร้อยละ 5-6 และมีสมาธิดีขึ้นร้อยละ 1 ผู้วิจัยพบด้วยว่าต้นไม้ที่มีมากขึ้นที่โรงเรียนหมายถึงอากาศที่ดีขึ้นสำหรับเด็กๆ ซึ่งช่วยอธิบายการเพิ่มขึ้นของความจำและสมาธิที่ดีขึ้นของเด็กๆ ถึง 2 ใน 3
ผลงานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ The Proceedings of National Academy of Sciences
รายงานโดย Maia Pujara และเรียบเรียงโดย รัตพล อ่อนสนิท