หลังทางการจีนปรับขึ้นภาษี 212% สำหรับไวน์นำเข้าจากประเทศออสเตรเลียเพราะรัฐบาลออสเตรเลียยกประเด็นต้นตอของเชื้อไวรัสโคโรนาขึ้นมากล่าวหาจีน ผู้ผลิตไวน์ในประเทศแอฟริกาใต้จึงใช้โอกาสนี้เข้ามาเป็นตัวเลือกใหม่ที่ดึงดูดนักดื่มในประเทศจีนแทน
มาร์คัส ฟอร์ด ผู้บริหารตลาดแถบเอเชียของไวน์และตัวแทนสมาคมผู้ผลิตไวน์ในประเทศแอฟริกาใต้ Wines of South Africa เล่าให้วีโอเอฟังว่า ออสเตรเลียส่งออกไวน์ไปจีนเป็นมูลค่าราวหนึ่งพันล้านดอลลาร์เมื่อปี ค.ศ. 2019 ก่อนที่จะทางการจีนทำการปรับภาษีขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ในตลาดไวน์ และไวน์จากแอฟริกาใต้ได้เข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้แทน โดยการส่งไวน์จากแอฟริกาใต้ไปยังประเทศจีนได้เพิ่มขึ้น 59% หรือเป็นมูลค่าถึง 31 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่ผ่านมา
แมทธิว คาราน ผู้ส่งออกเนื้อวัวรายใหญ่ที่สุดในประเทศแอฟริกาใต้จึงได้ถือโอกาสนี้ส่งออกไวน์ด้วย โดยเขากล่าวว่า เขาผลิตไวน์อย่างพิถีพิถันเพื่อให้เสริมรสชาติเนื้อสเต็กและถูกปากผู้บริโภคชาวจีนไปพร้อมกัน พร้อมชี้ว่านักดื่มชาวจีนชอบไวน์ที่มีสารแทนนินต่ำจึงเกิดรสขมเฝื่อนน้อย และชอบไวน์แดงเพราะสีข้างต้นถือเป็นสีน้ำโชคและสิริมงคลในวัฒนธรรมจีน
มอร์เน่ เลอ รูซ์ ผู้จัดการไร่ไวน์ Swartland Winery แสดงความคิดเห็นในทางเดียวดันและกล่าวเสริมว่า นักดื่มชาวจีนชอบไวน์แดงที่เข้มข้น เช่น Pinotage, Merlot, Cab Sauv และ Cab Sauv/ Merlot ซ้ำยังชอบขวดไวน์ที่ปิดด้วยจุกไม้ก๊อกมากกว่าฝาเกลียว ฉลากของขวดควรจะมีสีแดง ดำ ทอง และเงิน และไม่ควรใช้สีเขียว
ทั้งนี้ มาร์คัส ฟอร์ด แห่ง Wines of South Africa อธิบายตลาดไวน์ในประเทศจีนมีโอกาสเติบโตสูงเพราะในช่วงระยะเวลา 17 ปีที่ผ่านมา ประเทศจีนนำเข้าไวน์เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า จาก 6 ล้านลังในปี 2001 ถึง 60 ล้านลังในปี 2018
เขากล่าวว่ามีลูกค้าหลักสองประเภทที่ชอบไวน์จากแอฟริกาใต้ กลุ่มแรกคือ ลูกค้าคนรวยที่ปกติจะดื่มไวน์ขวด ละ 1,000 เหรียญจากฝรั่งเศสเป็นหลัก โดยตอนนี้บางส่วนเริ่มลองชิมไวน์จากประเทศอื่นที่ราคาอยู่ประมาณ 100 ดอลลาร์ต่อขวดแทน ส่วนกลุ่มที่สอง คือ ลูกค้าทั่วไปที่ลองดื่มไวน์จากฝรั่งเศสที่ราคาย่อมเยาและชิมไวน์จากประเทศชิลีและออสเตรเลียครบแล้ว ตอนนี้จึงเริ่มหันมาลองไวน์ใหม่ๆอย่างไวน์จากแอฟริกาใต้นั่นเอง
นอกจากนี้ การดื่มไวน์ในทางตอนเหนือของจีนที่ผู้คนส่วนใหญ่เน้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีความมึนเมาสูงนั้นนิยมไวน์แดงที่เข้มข้น ต่างจากทางตอนใต้ของประเทศที่ชอบไวน์ขาว ส่วนคนรุ่นใหม่ชอบไวน์ที่เบากว่าและเลือกที่จะจิบไวน์ขาวหรือสปาร์คกลิ้งไวน์ (ไวน์ที่มีความซ่าจากการอัดอากาศเข้าไป)
แต่ หยาง หลิ่ว ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ขั้นสูง (sommelier) จากเมืองเซี่ยงไฮ้ แย้งว่า เป็นสิ่งที่ยากหากจะเหมารวมว่าถึง “การลิ้มรสของชาวจีน” เป็นแบบใดแบบหนึ่ง เพราะประเทศจีนมีความหลากหลายและประชากรกว่าพันล้านคน
ทางด้าน มอร์เน่ เลอ รูซ์ ผู้จัดการไร่ไวน์ Swartland Winery กล่าวเพิ่มเติมว่า การเจาะตลาดไวน์และการสร้างชื่อเสียงของไวน์แอฟริกาใต้ในจีนมีความท้าทายสูง เนื่องจากไวน์จากแอฟริกาใต้ยังไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร
สำหรับอนาคตของไวน์จากประเทศแอฟริกาใต้ในตลาดจีนนั้น ฟอร์ดกล่าวว่าถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่จากสหรัฐฯ อย่าง Sam's Club และ Walmart ได้นำไวน์แอฟริกาใต้ไปวางขายแล้ว ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการสั่งซื้อไวน์ที่เพิ่มขึ้นและร้านค้าเล็กๆ อาจแนวโน้มที่จะทำตามเช่นกัน