สหประชาชาติรายงานว่าประชากรโลกจะเพิ่มจำนวนขึ้นอีกสองพันล้านคนภายในกลางคริสตศวรรษนี้ขณะที่ทีมนักวิจัยในสหรัฐกำลังคิดค้นสุดยอดถั่วเหลืองเพื่อเพิ่มผลผลิตอาหารแก่ประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น
สหประชาชาติประมาณการณ์ว่าโลกจะต้องผลิตอาหารเพิ่มขึ้นถึง 70 เปอร์เซ็นต์จากปริมาณที่ผลิตได้ในปัจจุบันเพื่อเลี้ยงปากท้องชาวโลกที่จะเพิ่มขึ้นและมีกำลังซื้อกันมากขึ้น
นาย Kenneth Quinn ประธานมูลนิธิ World Food Prize บอกว่านี่เป็นงานที่ท้าทายมากที่สุดอย่างหนึ่งแห่งยุค
นาย Quinn กล่าวว่าจะมีคนเพิ่มขึ้นอีกสองพันล้านคนบนโลกมนุษย์นับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปจนถึงราวปีคริสตศักราช 2050 แต่ยังไม่รู้ว่าจะผลิตอาหารให้เพียงพอแก่ประชากรโลกที่กำลังเพิ่มขึ้นนี้ได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าววีโอเอรายงานว่านี่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหันไปหาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เพื่อค้นหาทางออก
ขณะนี้ ทีมนักวิทยาศาสตร์แห่งองค์การนาซ่านำโดยนาย Darren Drewry กำลังพยายามพัฒนาถั่วเหลืองให้มีผลผลิตสูงขึ้นและช่วยสะท้อนแสงกลับออกไปยังนอกโลกมากขึ้นเพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและใช้น้ำน้อยลงในการปลูก
นาย Drewry หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่าภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบต่อรูปแบบของการเกิดฝนกับปริมาณฝนที่ตกซึ่งสร้างผลกระทบตามมาต่อภาคการเกษตรกรรม
ทีมนักวิจัยชี้ว่าไม่สามารถเสาะหาพืชอาหารในธรรมชาติที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมได้ ทำให้พวกเขาหันไปใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทำการออกแบบพืชอาหารที่ต้องการคิดค้น มีการจัดเรียงใบของพืชเสียใหม่เพื่อให้มีใบดกและทำมุมรับกับแสงอาทิตย์ได้มากขึ้น
เมื่อได้พืชจำลองแบบทางคอมพิวเตอร์แล้ว นักวิจัยจะนำพืชไปทดลองปลูกจริงๆ ในแปลงปลูกและมีการควบคุมทางสภาวะแวดล้อม
ศาสตราจารย์ Stephen Long แห่ง University of Illinois หนึ่งในสมาชิกทีมวิจัยกล่าวว่าหากพืชที่นำไปปลูกในแปลงทดลอง เจริญเติบโตในทำนองเดียวกับที่ระบบคอมพิวเตอร์ได้พยากรณ์เอาไว้ ทีมงานจะทำการศึกษาหาสายพันธุ์ของถั่วเหลืองที่มีคุณสมบัติอย่างที่อยากได้แล้วนำไปผสมพันธุ์เพื่อให้ได้ถั่วเหลืองสายพันธุ์ใหม่ตามลักษณะที่ออกแบบไว้โดยระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถให้ผลผลิตสูงขึ้นและต้องการน้ำน้อยลง
ด้านนาย Kenneth Quinn ประธานมูลนิธิ World Food Prize กล่าวว่าความต้องการอาหารและน้ำจะกระทบต่อโลกอย่างมากขึ้น ไม่เฉพาะแค่ปัญหาทางการเกษตรกรรมและอาหารเท่านั้น
เขากล่าวว่าการขาดแคลนน้ำและอาหารเป็นสาเหตุความขัดแย้งและการสู้รบมาก ดังนั้นประเด็นความมั่นคงแห่งชาติกับความมั่นคงด้านอาหารได้กลายเป็นปัญหาเดียวกันและบรรดานักกฏหมาย ชาวนา และนักวิทยาศาสตร์ จำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อเตรียมตัวรับมือกับโลกในอนาคตที่จะกระหายและหิวโหยมากขึ้น
สหประชาชาติประมาณการณ์ว่าโลกจะต้องผลิตอาหารเพิ่มขึ้นถึง 70 เปอร์เซ็นต์จากปริมาณที่ผลิตได้ในปัจจุบันเพื่อเลี้ยงปากท้องชาวโลกที่จะเพิ่มขึ้นและมีกำลังซื้อกันมากขึ้น
นาย Kenneth Quinn ประธานมูลนิธิ World Food Prize บอกว่านี่เป็นงานที่ท้าทายมากที่สุดอย่างหนึ่งแห่งยุค
นาย Quinn กล่าวว่าจะมีคนเพิ่มขึ้นอีกสองพันล้านคนบนโลกมนุษย์นับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปจนถึงราวปีคริสตศักราช 2050 แต่ยังไม่รู้ว่าจะผลิตอาหารให้เพียงพอแก่ประชากรโลกที่กำลังเพิ่มขึ้นนี้ได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าววีโอเอรายงานว่านี่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหันไปหาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เพื่อค้นหาทางออก
ขณะนี้ ทีมนักวิทยาศาสตร์แห่งองค์การนาซ่านำโดยนาย Darren Drewry กำลังพยายามพัฒนาถั่วเหลืองให้มีผลผลิตสูงขึ้นและช่วยสะท้อนแสงกลับออกไปยังนอกโลกมากขึ้นเพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและใช้น้ำน้อยลงในการปลูก
นาย Drewry หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่าภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบต่อรูปแบบของการเกิดฝนกับปริมาณฝนที่ตกซึ่งสร้างผลกระทบตามมาต่อภาคการเกษตรกรรม
ทีมนักวิจัยชี้ว่าไม่สามารถเสาะหาพืชอาหารในธรรมชาติที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมได้ ทำให้พวกเขาหันไปใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทำการออกแบบพืชอาหารที่ต้องการคิดค้น มีการจัดเรียงใบของพืชเสียใหม่เพื่อให้มีใบดกและทำมุมรับกับแสงอาทิตย์ได้มากขึ้น
เมื่อได้พืชจำลองแบบทางคอมพิวเตอร์แล้ว นักวิจัยจะนำพืชไปทดลองปลูกจริงๆ ในแปลงปลูกและมีการควบคุมทางสภาวะแวดล้อม
ศาสตราจารย์ Stephen Long แห่ง University of Illinois หนึ่งในสมาชิกทีมวิจัยกล่าวว่าหากพืชที่นำไปปลูกในแปลงทดลอง เจริญเติบโตในทำนองเดียวกับที่ระบบคอมพิวเตอร์ได้พยากรณ์เอาไว้ ทีมงานจะทำการศึกษาหาสายพันธุ์ของถั่วเหลืองที่มีคุณสมบัติอย่างที่อยากได้แล้วนำไปผสมพันธุ์เพื่อให้ได้ถั่วเหลืองสายพันธุ์ใหม่ตามลักษณะที่ออกแบบไว้โดยระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถให้ผลผลิตสูงขึ้นและต้องการน้ำน้อยลง
ด้านนาย Kenneth Quinn ประธานมูลนิธิ World Food Prize กล่าวว่าความต้องการอาหารและน้ำจะกระทบต่อโลกอย่างมากขึ้น ไม่เฉพาะแค่ปัญหาทางการเกษตรกรรมและอาหารเท่านั้น
เขากล่าวว่าการขาดแคลนน้ำและอาหารเป็นสาเหตุความขัดแย้งและการสู้รบมาก ดังนั้นประเด็นความมั่นคงแห่งชาติกับความมั่นคงด้านอาหารได้กลายเป็นปัญหาเดียวกันและบรรดานักกฏหมาย ชาวนา และนักวิทยาศาสตร์ จำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อเตรียมตัวรับมือกับโลกในอนาคตที่จะกระหายและหิวโหยมากขึ้น