องค์การอนามัยโลกได้ระบุว่าโรคต้อหินเป็นสาเหตุหลักอันดับสองที่ทำให้ตาบอด รองลงมาจากต้อกระจก ยาบำบัดและการผ่าตัดอาจช่วยทุเลาอาการได้แต่ยังขาดการบำบัดที่ดีกว่า
ต้อหินเกิดจากความดันในดวงตาที่เพิ่มขึ้น ไปทำลายเส้นประสาทตาและทำให้สูญเสียการมองเห็น Dr. Susan Quaggin แห่ง Northwestern University ในชิคาโก้อธิบายว่าดวงตาของเราเต็มไปด้วยของเหลวต่างๆ และดวงตาจะผลิตของเหลวใหม่ๆ ออกมาตลอดเวลา
ผู้เชี่ยวชาญท่านนี้กล่าวว่าจำเป็นมากที่ดวงตาต้องมีระบบระบายของเหลวเพื่อให้ดวงตากำจัดของเหลวออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและหากระบบระบายของเหลวในดวงตามีปัญหา ของเหลวในดวงตาจะคั่งค้างและทำให้เกิดความดันเพิ่มขึ้นในดวงตา
ด็อกเตอร์ Quaggin กล่าวว่าตนและทีมงานวิจัยค้นพบลักษณะของกระบวนการทางชีวเคมีหรือ chemical pathway ในร่างกายที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาระบบระบายของเหลวในดวงตาที่แข็งแรง หนูทดลองที่ถูกตกแต่งพันธุกรรมให้ร่างกายสกัดกั้นกระบวนการทางชีวเคมีนี้ ปรากฏว่าหนูจะเริ่มมีอาการของต้อหินอย่างรวดเร็ว
หัวหน้าการวิจัยกล่าวว่าหากไม่มีกระบวนการทางชีวเคมีนี้ ระบบระบายของเหลวในดวงตาก็ไม่พัฒนาแรงดันในดวงตาเพิ่มขึ้นและเริ่มเป็นต้อหิน
การระบุกระบวนการทางชีวเคมีที่มีบทบาทต่อระบบระบายของเหลวในดวงตานี้ช่วยให้ทีมนักวิจัยมุ่งพัฒนายาเพื่อบำบัดอาการนี้เป็นการเฉพาะเจาะจง
หัวหน้าการวิจัยชี้ว่าเป้าหมายหลักของทีมงานคือมุ่งพัฒนายาหยอดตาที่ช่วยกระตุ้นให้กระบวนการทางชีวเคมีในร่างกายสร้างระบบระบายของเหลวในดวงตาและเพื่อลดความดันในดวงตาลงตลอดจนป้องกันอาการตาบอด
การศึกษาโดยทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Northwestern University ในชิคาโกนี้ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Clinical Investigation ไปเมื่อเร็วๆ นี้