หลังจากภาครัฐต้องการให้บริษัทเทคโนโลยี เร่งมือช่วยป้องกันภัยก่อการร้าย ทางบริษัท Google พยายามเพิ่มศักยภาพในการระบุและดึงคลิปวิดีโอที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้ายและความรุนแรงสุดโต่งออกจาก YouTube ซึ่งอยู่ในเครือเดียวกัน
ความพยายามแรกเป็นเรื่องการระบุเนื้อหาเรื่องการก่อการร้ายด้วยระบบการวิเคราะห์ ซึ่งวิธีนี้สามารถเข้าถึงเนื้อหามากกว่าครึ่งหนึ่งของคลิปเกี่ยวกับความคิดสุดโต่งหัวรุนแรงที่ถูกดึงออกจากระบบในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
และ Google เตรียมเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ชำนาญการเรื่องโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในเรื่องนี้อีกด้วย
นอกจากนั้น บริษัทจะเพิ่มการร่วมมือกับเครือข่ายองค์การต่างๆ ที่ไม่ใช่รัฐอีก 50 หน่วยงาน ที่ทำงานเรื่องการแจ้งเตือน ในโครงการที่เรียกว่า YouTube Trusted Flagger program
โดยผู้ที่ทำงานด้านการแจ้งเตือน หรือเป็น Flagger จะช่วยแยกเนื้อหาที่โฆษณาจูงใจให้คนมีความคิดสุดโต่งออกจากเนื้อหาที่เป็นข่าวสาร
Google กล่าวว่าระบบการทำงานนี้แยกเนื้อหาได้อย่างถูกต้องร้อยละ 90 และบริษัทกล่าวว่าขณะนี้เครือข่ายองค์กรที่ทำงานในโครงการ YouTube Trusted Flagger program มีถึง 63 แห่ง
สำหรับวิดีโอที่ไม่ได้มีเนื้อหาขัดกับนโยบายเรื่องความรุนแรง แต่มีสร้างความกังวลเช่น เนื้อหาคลั่งเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ หรือปลุกปั่นทางศาสนา บริษัทมีมาตรการที่เพิ่มขึ้นในด้านนี้เช่นกัน โดยที่เนื้อหาลักษณะนี้จะถูกแจ้งเตือน
การถูกแจ้งเตือนจะทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าไปแสดงความชื่นชอบ และผู้เผยแพร่ข้อมูลไม่สามารถหารายได้ได้จากคลิปเหล่านั้น
Google ยอมรับว่าเป็นงานที่ต้องหาสมดุลให้ดีระหว่างเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเนื้อหาที่มีปัญหา
มาตรการที่เพิ่มขึ้นมาอีกประการหนึ่งเรียกว่า Redirect Method
ตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีนี้ อาจเห็นได้ในกรณีที่ระบบคอมพิวเตอร์จัดให้เนื้อหาต่อต้านกลุ่มรัฐอิสลามไอเอสไปปรากฏบนหน้าจอของผู้ที่มีความเป็นไปได้ที่จะถูกดึงให้เป็นสมาชิกไอเอส เพื่อช่วยให้พวกเขากลับใจไม่ฝักใฝ่ขบวนการก่อการร้าย
มาตรการทั้งหมดที่กล่าวมาสามารถอ่านได้จาก Blog ของ Google และเป็นการสะท้อนแนวทางเดียวกับ Facebook ที่ใช้เทคโนโลยีภูมิปัญญาประดิษฐ์ช่วยต่อต้านภัยจากเนื้อหาบนโซเชี่ยลมีเดียเกี่ยวกับการก่อการร้าย
(รายงานโดยห้องข่าววีโอเอ / รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียง )