เเม่น้ำสายต่างๆ ในประเทศเยอรมนีมีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจ เพราะเป็นช่องทางขนส่งสินค้ามูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากท่าเรือชายทะเลเข้าไปยังจุดต่างๆ ทั่วประเทศ
แต่ในปีนี้ ระดับน้ำในเเม่น้ำสายต่างๆ ได้ลดลงจนอยู่ในระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ เเละในแม่น้ำบางสาย ระดับน้ำลดลงไปแตะจุดที่ต่ำเพียง 20 เซนติเมตรเท่านั้น
นี่ทำให้การขนส่งสินค้าจากท่าเรือชายทะเลเข้าไปยังส่วนต่างทั่วประเทศทำได้ยากขึ้น เพราะเรือขนส่งสินค้าต้องบรรทุกน้ำหนักสินค้าน้อยลงเพื่อให้เบาขึ้นกว่าเดิมเพื่อไม่ให้เรือเกยตื้น
โรล์ฟ นาเกลชูมิดท์ (Rolf Nagelschmidt) แห่งบริษัท โคโลญจน์ วอเตอร์เวย์ส แอนด์ ชิพปิ้ง (Cologne Waterways and Shipping) กล่าวว่า เรือขนส่งสินค้าทุกลำของบริษัทที่มุ่งหน้าไปยังแม่น้ำไรน์ต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อขนส่งสินค้าที่ปกติใช้เรือลำเลียงเพียงไม่กี่ลำเท่านั้น แทบพูดได้ว่าอะไรก็ตามที่ลอยน้ำได้ บริษัทจะนำไปใช้ลำเลียงสินค้า
อุปสรรคของการขนส่งสินค้าเข้าไปในจุดอื่นๆ ทั่วเยอรมนี นอกจากจะทำให้ขาดแคลนสินค้าเเล้ว ยังทำให้ราคาสิินค้าสูงขึ้นด้วย
ส่วนหนึ่งของปัญหาเกิดจากสภาพอากาศที่แห้งทั้งปี แต่ผลการศึกษาพบว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกก็เป็นปัจจัยส่วนหนึ่งของปัญหานี้ด้วย โดยคาดว่าอากาศที่แห้งจะเกิดบ่อยขึ้นจนกลายเป็นเรื่องปกติ
เดิร์ก เอเลิร์ท (Derk Ehlert) แห่งกรมสิ่งแวดล้อม กรุงเบอร์ลิน (Berlin Environmental Department) กล่าวว่า ทางตะวันออกของเยอรมนีมีฝนตกน้อยเป็นปกติอยู่เเล้ว แต่ฤดูร้อนปีนี้ยิ่งไม่มีฝนตกเลย จึงทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยิ่งลดลงไปอีก
และที่แม่น้ำสปรี จุดที่ไหลผ่านใจกลางกรุงเบอร์ลิน ระดับน้ำลดลงต่ำมากและผลกระทบนี้ไม่จำกัดอยู่เฉพาะการค้าขายเท่านั้น แต่ยังทำให้หลายๆส่วนของประเทศกำลังใกล้จะขาดเเคลนน้ำเเล้ว
เอเลิร์ท กล่าวว่า พยากรณ์อากาศชี้ว่ากรุงเบอร์ลินจะมีน้ำในระดับที่เพียงพอตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้เท่านั้น หลังจากนี้ หากฝนยังไม่ตกลงมากพอ ก็จำเป็นต้องปิดประตูน้ำเพื่อเก็บกักน้ำไว้
บรรดาเกษตรกรชาวเยอรมันก็ได้รับผลกระทบจากฝนที่ขาดสายเช่นกันและขณะนี้มีฟาร์มหลายพันแห่งที่กำลังจะเจอกับภาวะล้มละลาย
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทย กรุงวอชิงตัน)