รัฐ Bavaria ในเยอรมนีซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือของฮิตเลอร์เล่มนี้ตั้งเเต่ปี ค.ศ. 1945 ได้ปฏิเสธไม่ให้มีการตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้มาตลอด เพราะต้องการแสดงความเคารพต่อเหยื่อของกลุ่มนาซี
แต่เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ลิขสิทธิ์นี้ได้หมดอายุลงทำให้หนังสือเล่มนี้กลายเป็นสมบัติสาธารณะและมีสำนักพิมพ์หลายเจ้ากำลังเตรียมที่จะตีพิมพ์เพื่อนำออกมาวางขาย
บรรดาชาวยิวหลายๆ กลุ่มชี้ว่า หนังสือเล่มนี้เป็นเครื่องเตือนความทรงจำถึงสิ่งชั่วร้ายที่เกิดขึ้นตามมา
คุณ Charlotte Knobloch แห่งศูนย์เพื่อชุมชนชาวยิวแห่งมิวนิคและบาวาเรียตอนเหนือกล่าวว่า เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าหนังสือของฮิตเลอร์จะตีพิมพ์ออกมาวางขายในร้านหนังสือ และเธอหวังว่าจะมีการห้ามวางขายหนังสือเล่มนี้เพราะถือว่าผิดกฏหมายต่อต้านการกบฏ
อย่างไรก็ตาม หนังสือเล่มนี้ไม่ถูกสั่งห้ามนำออกขายในเยอรมนี และทางการของเยอรมนีก็ไม่สามารถทำอะไรได้ต่อเรื่องนี้
นาย Heiko Maas รัฐมนตรียุติธรรมเยอรมนีบอกว่า ไม่ง่ายเลยที่จะสั่งห้ามขายหนังสือนี้ด้วยเหตุผลทางลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม หากเกิดอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับความเกลียดชังทางเชื้อชาติหรือศาสนา เจ้าหน้าที่อาจสามารถเอาผิดได้ตามกฏหมาย
มีการโต้เเย้งว่าหนังสือที่ยาว 800 ของฮิตเลอร์เล่มนี้ ควรมีการตีความหมายให้ชัดเจน และวิธีที่ดีที่สุดคือการตีพิมพ์ออกมาในรูปของหนังสือที่มีการอธิบายหมายเหตุประกอบอย่างเหมาะสม
คุณ Timo Schnirlein วิศวกรชาวเยอรมันกล่าวว่า ไม่ควรอ่านหนังสือเรื่องไมน์คัมพฟ์ราวกับว่าเป็นหนังสือคำสอนทางศาสนา หนังสือเล่มนี้ควรพิมพ์ออกมาในรูปของเนื้อหาที่ประกอบด้วยข้อเขียนของนักสังคมวิทยาและนักประวัติศาสตร์
แต่หากตีพิมพ์ออกมาในรูปนี้ หนังสือเล่มนี้จะไม่มีอิทธิพลทางลบใดๆ ต่อสาธารณชนอีกต่อไป
หนังสือของฮิตเลอร์เล่มนี้ถูกสั่งห้ามในหลายๆ ประเทศ รวมทั้ง ออสเตรียกับเนเธอร์เเลนด์ และถือว่าเป็นหนังสือต้องห้ามในอิสราเอล ซึ่งมีเฉพาะฉบับย่อของหนังสือเล่มนี้เท่านั้นเพื่อจุดประสงค์ทางการศึกษาแต่บรรดานักวิชาการชาวอิสราเอลหลายคนเชื่อว่าจำเป็นต้องมีหนังสือฉบับสมบูรณ์
คุณ Dan Michman แห่ง YAD VASHEM International Institute For Holocaust Research กล่าวว่าหนังสือเรื่องไมน์คัมพฟ์เป็นหนังสือสำคัญเล่มหนึ่ง เพราะฮิตเล่อร์ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเขียนหนังสือเล่มนี้ จึงเป็นหนังสือที่เเสดงถึงความคิดของเขาจริงๆ
ความคิดในบางส่วนของหนังสือถูกนำไปใช้ปฏิบัติจริงๆ แต่บางส่วนไม่ถูกนำไปใช้ในทางปฏิบัติ เขากล่าวว่าแม้แต่ส่วนที่ไม่ถูกนำไปปฏิบัติก็มีความสำคัญ ในการเข้าใจพื้นฐานชีวิตและสภาพแวดล้อมในวัยเด็กของฮิตเลอร์
คุณ Ayo Oppenheimer ชาวยิวในอิสราเอลกล่าวว่าค่อนข้างเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ในด้านหนึ่งตนเองไม่ตื่นเต้นอะไรที่หนังสือเรื่องไมน์คัมพฟ์ของฮิตเลอร์จะตีพิมพ์ออกมาวางขายทั่วโลก แต่ในอีกด้านหนึ่งเราไม่สามารถควบคุมเสรีภาพในการความคิดเห็นได้ และไม่คิดว่าเราควรควบคุมเสรีภาพด้านนี้
หนังสือเรื่องไมน์คัมพฟ์เสนอเนื้อหาความคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองของฮิตเลอร์ โดยฮิตเลอร์เขียนหนังสือเล่มนี้ในเรือนจำแห่งหนึ่งในรัฐบาวาเรียขณะถูกจองจำข้อหากบฏหลังจากก่อปฏิวัติล้มเหลวในมิวนิค เมืองหลวงของรัฐบาวาเรียในปี ค.ศ 1923
(เรียบเรียงโดย ทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน )