รัฐบาลเยอรมนีเริ่มการผ่อนคลายมาตรการจำกัดต่างๆ สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากอังกฤษ และประเทศอื่นๆ อีก 4 ประเทศ ที่ดำเนินการบังคับใช้มาหลังเกิดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา
กระทรวงสาธารณสุขเยอรมนี เปิดเผยในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลกรุงเบอร์ลินได้ปรับลดอันดับความเสี่ยงของการระบาดของโควิด-19 สำหรับอังกฤษ โปรตุเกส รัสเซีย อินเดีย และเนปาล จากระดับสูงสุดซึ่งเป็นกลุ่มที่ “เป็นพื้นที่น่ากังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์” ให้ลงมาอยู่ในกลุ่ม “พื้นที่ที่มีการระบาดสูง” แทน
การปรับเปลี่ยนล่าสุดนี้ทำให้นักเดินทางจากประเทศดังกล่าวไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรการกักตัวเพื่อเฝ้าระวังอาการถ้าหากมีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว ขณะที่ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนจะต้องทำการกักตัวแยกออกจากผู้อื่นเป็นเวลา 10 วัน โดยระยะเวลาดังกล่าวอาจถูกปรับลดลงให้เหลือ 5 วันได้ หากการติดเชื้อระบุผลตรวจออกมาเป็นลบ หรือไม่มีการติดเชื้อนั่นเอง
นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า รัฐบาลกรุงลอนดอนกำลังตั้งเป้าที่จะยุติมาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์เดลตาจะยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม ทั้งยังจะสั่งยุติการบังคับใส่หน้ากากและการรักษาระยะห่างทางสังคมด้วย แต่จะอนุญาตให้ธุรกิจต่างๆ เลือกออกคำสั่งของตนเองได้ต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลอังกฤษมีกำหนดจะตัดสินใจอย่างเป็นทางการว่าจะผ่อนคลายมาตรการทั้งหมดอย่างไรและเมื่อไหร่ ในสัปดาห์หน้า
การบริจาควัคซีน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น โทชิมิทสึ โมเทกิ เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นจะบริจาควัคซีนของแอสตราเซเนกา จำนวน 1.1 ล้านโดสให้กับไต้หวันในสัปดาหนี้ หลังจากเพิ่งได้รับวัคซีนล็อตใหม่มา โดยเมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลกรุงโตเกียวเพิ่งบริจาควัคซีนจำนวน 1.24 ล้านโดสให้กับรัฐบาลกรุงไทเปไป
นอกจากนั้น ญี่ปุ่นจะบริจาควัคซีนของแอสตราเซเนกาจำนวน 1 ล้านโดสให้กับประเทศไทย และฟิลิปปินส์ในสัปดาห์นี้ด้วย หลังจากทำการบริจาควัคซีนจำนวนเดียวกันให้กับเวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซียไปแล้ว
ขณะเดียวกัน รัฐบาลอิสราเอลและรัฐบาลเกาหลีใต้ ประกาศแผนการแลกเปลี่ยนวัคซีนโควิด-19 ระหว่างกัน เพื่อหวังเร่งกระบวนการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในประเทศของตนให้เดินหน้าเร็วยิ่งขึ้น โดยอิสราเอลจะนำส่งวัคซีนของไฟเซอร์จำนวน 700,000 โดสให้กับเกาหลีใต้ก่อนสิ้นเดือนนี้ และเกาหลีใต้จะส่งคืนวัคซีนไฟเซอร์จำนวนเดียวกันกลับมาให้ภายในเดือนกันยายน
ไวรัสสายพันธุ์เดลตา
การระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่พบครั้งแรกในประเทศอินเดียกลายมาเป็นสาเหตุของการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยในหลายประเทศ ซึ่งรวมถึง เกาหลีใต้ ที่มีรายงานการพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้แล้วอย่างน้อย 711 รายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่นั้นอยู่ในเขตกรุงโซล
ส่วนที่อินโดนีเซีย รัฐบาลกรุงจาการ์ตาเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่ากำลังจัดหาออกซิเจนเพิ่มเติมมารับมือกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่พุ่งสูงเพราะการแพร่กระจายของไวรัสสายพันธุ์เดลตาอยู่ในเวลานี้
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่รัฐบาลลักเซมเบิร์ก ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีซาเวียร์ เบทเทล มีอาการป่วยหนักจากการติดเชื้อโควิด-19 และต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่อไปอีกสักพัก หลังเข้ารับการรักษาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เนื่องจากผลตรวจการติดเชื้อออกมาเป็นบวก ภายหลังจากการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอียูเป็นเวลา 2 วันที่กรุงบรัสเซลส์
โปรแกรมการแข่งขันกีฬาทั่วโลกระส่ำ
สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อโปรแกรมจัดการแข่งขันกีฬาหลายประเภททั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยผู้จัดงานประลองความเร็วรถ ออสเตรเลียน กรังปรีซ์ (Australian Grand Prix) ประกาศในวันอังคารว่า ต้องยกเลิกการแข่งขัน ฟอร์มูลา วัน (Formula One) เป็นปีที่สอง เนื่องจากมาตรการกักตัวเฝ้าระวังอาการและการจำกัดการเดินทางอันเข้มงวดของออสเตรเลีย
เดิมที การแข่งขันรายการดังกล่าวมีกำหนดจัดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 มีนาคม แต่ถูกเลื่อนมาเป็นวันที่ 21 พฤศจิกายน หรือ 2 สัปดาห์หลังการจัดการแข่งขัน บราซิลเลียน กรังปรีซ์ (Brazilian Grand Prix) ที่นครเซาเปาโล ซึ่งทำให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันไม่สามารถทำการกักตัวเป็นเวลา 14 วันตามกฎของออสเตรเลียได้
นอกจากนั้น การแข่งขัน ออสเตรเลียน โมโตจีพี (Australian MotoGP) ที่มีกำหนดจัดในเดือนตุลาคมที่สนามแข่งบนเกาะฟิลลิป รัฐวิกตอเรีย ก็ต้องถูกยกเลิกเป็นปีที่สองติดต่อกันเช่นกัน