การประชุม G20 ซึ่งเข้าร่วมโดยผู้นำ 19 ประเทศรวมทั้งตัวแทนจากสหภาพยุโรปมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านนโยบายและหารือปัญหาต่างๆ ซึ่งอยู่เกินความรับผิดชอบของประเทศใดประเทศหนึ่ง โดยปีนี้ที่นครโอซาก้าซึ่งญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคาดว่าประเด็นความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับอิหร่านจะเป็นที่สนใจ
ในส่วนของสหรัฐ ประธานาธิบดีทรัมป์มีกำหนดพบหารือโดยตรงกับประธานาธิบดีสี จิ้น ผิงของจีนและประธานาธิบดีวลาดิเมีย ปูตินของรัสเซีย และเชื่อว่าคงจะมีการหารือเรื่องอิหร่าน ยูเครน ปัญหาตะวันออกกลาง และเวเนซูเอลากับผู้นำรัสเซียด้วย
สำหรับจีน เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐกล่าวว่าการพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้น ผิงจะเป็นโอกาสให้ผู้นำสหรัฐทราบท่าทีของฝ่ายจีนเกี่ยวกับสงครามการค้าหลังจากที่การเจรจาการค้าซึ่งผ่านมา 11 รอบแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนก็แถลงต่อผู้สื่อข่าวเช่นกันแสดงความหวังว่าการพบปะนอกรอบระหว่างผู้นำทั้งสองในช่วงการประชุม G20 วันเสาร์นี้คงจะช่วยสร้างความไว้วางใจและช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ทั้งสองฝ่ายกำลังเผชิญอยู่
นอกจากการหารือนอกรอบกับผู้นำของรัสเซียกับจีนแล้ว ผู้นำสหรัฐยังจะพบเพื่อหารือโดยตรงกับผู้นำของออสเตรเลีย เยอรมนี อินเดีย ซาอุดิอาระเบีย และตรุกีด้วย และหลังจากเสร็จการประชุมจี G20 ที่ญี่ปุ่นแล้ว ผู้นำสหรัฐจะเดินทางต่อไปยังกรุงโซลตามคำเชิญของประธานาธิบดีมูน แจ อินของเกาหลีใต้เพื่อหารือเรื่องการลดความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือ แต่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวบอกปัดการคาดเดาที่ว่าประธานาธิบดีทรัมป์อาจพบกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนืออีกครั้งระหว่างที่อยู่บนคาบสมุทรเกาหลีครั้งนี้