ลิ้งค์เชื่อมต่อ

“ย่อยศพปุ๋ยหมัก” ทางเลือกรักษ์โลก


The Natural Funeral, Colorado
The Natural Funeral, Colorado

ในปัจจุบัน คนจำนวนไม่น้อยพยายามที่จะใช้ชีวิตในแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่เจ้าของธุรกิจบริการฌาปนกิจแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ มีแนวคิดที่ไปไกลกว่า และนำเสนอบริการที่ช่วยให้ผู้วายชนม์ มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย

สถานประกอบพิธีฌาปณกิจที่ชื่อว่า The Natural Funeral ที่ตั้งอยู่ในรัฐโคโรลาโด เป็นสถานประกอบการธุรกิจแตกต่างจากคู่แข่งอื่น ๆ เพราะว่าที่นี่มีทางเลือกในการจัดการกับศพแบบครบวงจรและเป็นมิตรต่อระบบนิเวศ โดยไม่เกี่ยวข้องกับสารเคมี

Seth Viddal, Co-founder, The Natural Funeral
Seth Viddal, Co-founder, The Natural Funeral

เซธ วิดดอล เจ้าของร่วมธุรกิจแห่งนี้อธิบายให้ วีโอเอ ว่า ปัจจุบัน หลายคนเลือกที่จะใช้ชีวิต ด้วยการทำตามแนวปฏิบัติ รีไซเคิล ลดปริมาณขยะ รวมไปถึงเลือกการเดินแทนที่จะนั่งรถ เพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และเมื่อมาถึงประเด็นจัดการกับศพ ทาง The Natural Funeral จึงเสนอทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับผู้ที่จากโลกนี้ไปด้วย ทั้งการฝังดิน การย่อยสลายร่างของผู้วายชนม์ด้วยน้ำที่ดีต่อระบบนิเวศ และล่าสุด ก็คือ การแปรสภาพศพให้กลายเป็นปุ๋ยหมัก

กระบวนการที่ฌาปนสถานแห่งนี้ดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามแนวคิดรักษ์โลก ก็คือ การบรรจุร่างของผู้ที่จากโลกไปแล้วใส่ในลังไม้บุฉนวนความยาวมากกว่า 2 เมตร ซึ่งจะทำหน้าที่ช่วยเร่งย่อยสลายตามธรรมชาติด้วยความร้อนตามหลักชีวเคมีเพื่อฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ทุกอย่างภายในลังนั้นกลายมาเป็นดินอินทรีย์ที่มีความอุดมสมบูรณ์ในที่สุด

วิดดอล อธิบายเพิ่มเติมถึงกระบวนการนี้ว่า นอกจากจะบรรจุร่างของคนอันเป็นที่รักที่จากไปไว้ในโลงนั้นแล้ว ทีมงานยังใส่เศษไม้ เศษหญ้าและฟางลงไปด้วย โดยวัตถุต่าง ๆ เหล่านี้เป็นส่วนประกอบในการทำปุ๋ยหมักอยู่แล้ว ซึ่งเรียกว่า สารเพิ่มปริมาณ ซึ่งจะช่วยทำให้ศพย่อยสลาย แปรสภาพเป็นดินคุณภาพดีได้ต่อไป

Funeral box at The Natural Funeral, Colorado
Funeral box at The Natural Funeral, Colorado

ทางด้านของผู้ใช้บริการอย่าง คาร์ล แฟรงค์ ที่ภรรยาเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้ เห็นว่า การจัดการศพแบบธรรมชาติ เป็นวิธีที่เหมาะสมกับความต้องการ และเปิดเผยว่า ภรรยาของเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการทำสวนเป็นอย่างมาก และมักใช้เวลาทำสวนหลายชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเขาก็วางแผนไว้ว่า หลังเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว จะนำดินจากฌาปนสถานในปริมาณ 1 ลูกบาศก์ฟุต มาแบ่งให้กับลูกชายและครอบครัว และตัวของเขาเอง เพื่อนำดินโปรยตามสถานที่ต่าง ๆ โดยคิดว่า จะนำดินส่วนใหญ่ไว้ที่สวนของภรรยาที่บริเวณหลังบ้าน

ผู้ที่สนับสนุนการย่อยสลายร่างผู้วายชนม์ให้กลายเป็ยนปุ๋ยหมักให้ทัศนะว่า การใช้วัสดุท้องถิ่นนั้นดีต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่การใช้โลงที่ผลิตและขนย้ายมาจากพื้นที่อื่น และวิธีดังกล่าวยังไม่สร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการเผา และไม่เปลืองพื้นที่ในการฝังแบบปกติธรรมเนียมด้วย

The Natural Funeral, Colorado
The Natural Funeral, Colorado

นับตั้งแต่ที่รัฐโคโรลาโดผ่านกฏหมายอนุญาตให้ทำการย่อยสลายร่างกายมนุษย์ให้เป็นปุ๋ยด้วยวิธีการตามธรรมชาติในปีที่ผ่านมา The Natural Funeral ได้ให้บริการลูกค้ามามากกว่า 24 ราย ซึ่งรายงานข่าวระบุว่า มีลูกค้ารายแรกชื่อว่า “โจอี้” เป็นวัยรุ่นผู้ชายที่มีความรักในธรรมชาติ

เซธ วิดดอล เจ้าของร่วมธุรกิจ The Natural Funeral เล่าย้อนกลับไปในช่วงเริ่มต้นว่า ครอบครัวของโจอี้ บอกว่า เด็กวัยรุ่นคนนี้รักสิ่งแวดล้อม และชอบใช้ชีวิตอยู่กลางแจ้ง ดังนั้น จึงรู้สึกว่าร่างกายของโจอี้ควรกลับสู่ธรรมชาติในรูปแบบของขวัญต่อผืนโลก และครอบครัวของเขายังได้นำดินจากการย่อยสลายบางส่วนกลับไปไว้ยังสวนที่บ้านด้วย

ทั้งนี้ ดินที่ได้จากกระบวนการย่อยสลายนั้นจะมีปริมาณอยู่ที่ราว 2-3 กระบะ โดย The Natural Funeral จะคิดค่าใช้จ่ายสำหรับกระบวนการดังกล่าว ในราคา 8,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 272,000 บาท ต่อ 1 ร่าง

ที่มา: วีโอเอ

XS
SM
MD
LG