เมื่อวันพุธ ฝรั่งเศสเริ่มอนุญาตให้ผู้คนจากอังกฤษเดินทางเข้าประเทศได้อีกครั้ง หลังจากที่ฝรั่งเศสและประเทศยุโรปอื่น ๆ ห้ามผู้ที่เดินทางจากอังกฤษเข้าประเทศก่อนหน้านี้ สืบเนื่องจากการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสที่กลายพันธุ์ในอังกฤษ
ทั้งนี้ ผู้ที่เดินทางจากอังกฤษมายังฝรั่งเศสได้จะต้องมีผลตรวจเชื้อโคโรนาไวรัสเป็นลบ โดยผลตรวจต้องออกภายในเวลา 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
มาตรการห้ามเดินทางดังกล่าวไม่เพียงแต่ทำให้ผู้คนเดินทางข้ามพรมแดนไม่ได้เท่านั้น แต่ยังทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศสติดขัด จนเกิดความกังวลว่าจะเกิดการขาดอาหารและสินค้า
เมื่อวันอังคาร อังกฤษ ฝรั่งเศส และสหภาพยุโรป หรือ EU ตกลงยกเลิกมาตรการห้ามเดินทางดังกล่าวที่มีมาตั้งแต่วันอาทิตย์ โดยก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการยุโรปแนะนำให้ยกเลิกมาตรการดังกล่าว แต่ก็ไม่แนะนำให้ผู้คนเดินทางเข้าและออกจากอังกฤษโดยไม่จำเป็นเช่นกัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการอังกฤษพบเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่กลายพันธุ์ และร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก หรือ WHO อย่างใกล้ชิดเพื่อจัดการกับไวรัสนี้ โดยในเบื้องต้นพบว่าไวรัสที่กลายพันธุ์จะระบาดได้รวดเร็วกว่าไวรัสเดิม
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของ WHO ระบุเมื่อวันจันทร์ว่า ยังไม่มีหลักฐานว่าไวรัสที่กลายพันธุ์นี้รุนแรงหรือเป็นอันตรายถึงชีวิตมากกว่าไวรัสตัวเดิม โดยไวรัสต่าง ๆ สามารถกลายพันธุ์ได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว และวิธีการป้องกันกลายพันธุ์ที่ดีที่สุดก็คือการควบคุมการระบาดให้ได้
ทางด้าน EU ก็ระบุว่า พบเชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์ในเบลเยียม เดนมาร์ค อิตาลีและเนเธอร์แลนด์ แม้จะยังพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนไม่มากก็ตาม ทางหัวหน้าของสถาบันโรเบิร์ต คอช สถาบันด้านสาธารณสุขของเยอรมนี ยังกล่าวเมื่อวันอังคารด้วยว่า เชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์น่าจะเริ่มระบาดในเยอรมนีแล้วด้วยเช่นกัน