สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าความต้องการชีสจากภาคครัวเรือนของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงการระบาดของโคโรนาไวรัส ซึ่งทำให้ทางการประกาศให้ประชาชนควรอยู่บ้านเป็นหลัก หากไม่มีเหตุจำเป็นต้องเดินทาง
ข้อมูลจากหน่วยงานสินค้าเกษตรของฝรั่งเศสและบริษัทข้อมูลการตลาด Kantar ระบุว่า ปริมาณชีสที่ชาวฝรั่งเศสซื้อเพื่อการบริโภคในครัวเรือน เพิ่มขึ้นกว่า 8 เปอร์เซ็นต์ในปีที่เเล้ว เทียบกับการเติบโตเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ หนึ่งปีก่อนหน้านั้น
ตัวเลขดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคนจำนวนมากทั่วโลกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคทีละปริมาณมากๆ เมื่อปีที่แล้วซึ่งเกิดการระบาดของโคโรนาไวรัส และจากนั้นคนก็ปรับตัวมารับประทานอาหารที่บ้านมากขึ้น
หากพิจารณาว่าชีสประเภทใดได้รับความนิยมมากที่สุดเมื่อปีที่แล้ว ก็จะพบว่า “มอสซาเรลลา” มียอดขายเพิ่มขึ้นในฝรั่งเศสมากถึง 21 เปอร์เซ็นต์นำหน้าชีสประเภทหลักชนิดอื่นๆ
ชีสที่ยอดขายเติบโตอันดับสองคือ “ราเคล็ต” ที่เป็นชีสกึ่งนิ่มกึ่งเเข็ง มักทานร้อนๆและเสิร์ฟกับมันเเละเนื้อสัตว์หมักเกลือหั่นชิ้นบางๆ โดยยอดขาย “ราเคล็ต” ซึ่งเป็นเมนูที่นิยมในฤดูหนาวของฝรั่งเศส ขยายตัว 12 เปอร์เซ็นต์
เมื่อเห็นทิศทางที่สดใส คนในวงการชีสของฝรั่งเศสจึงรณรงค์ให้คนสนใจที่จะอนุรักษ์ชีสฝีมือคนท้องถิ่น เพื่อที่ว่าชีสประเภทที่ต้องปราณีตทำจากความชำนาญของชุมชนต่างๆจะได้ไม่สูญหายไปจากท้องตลาด
องค์กรภาคอุตสาหกรรมอาหารจากฟาร์มของฝรั่งเศส CNIEL ตั้งข้อสังเกตว่า แม้การซื้อชีสจากครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น แต่อุปสงค์จากผู้บริโภคที่เป็นประชาชนทั่วไปคงทำได้เพียงพยุงยอดขายรวมเท่านั้น
นั่นเป็นเพราะอุตสาหกรรมโดยรวมได้รับผลกระทบหนักจากการที่ร้านอาหารปิดตัวลงและภาคการท่องเที่ยวที่ซบเซา หน่วยงาน CNIEL กล่าวว่าปัจจัยลบเหล่านี้น่าจะดำเนินต่อไปในปีนี้
