ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางไปอนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์ ในรัฐเซาท์ดาโคตา เพื่อเปิดงานเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพ ที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ ที่แห่งนี้ในรอบกว่าทศวรรษ
ปธน.ทรัมป์ ประกาศก่อนออกเดินทางว่า งานเฉลิมฉลองในช่วงค่ำของวันศุกร์ตามเวลาในสหรัฐฯ ที่จะจัดขึ้นที่วนอุทยานแห่งชาติอันเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานประติมากรรมแกะสลักหน้าและศีรษะของ 4 อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บนหน้าผาของภูเขาหินแกรนิตแห่งนี้ จะเป็นการแสดงดอกไม้ไฟครั้งใหญ่ที่หลายคนไม่เคยเห็นมาก่อน
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดูแลวนอุทยานแห่งนี้ทำการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเพื่อเตรียมงานฉลองวันสำคัญนี้ ก่อนจะสรุปว่าการจุดดอกไม้ไฟไม่น่าจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อพื้นที่ในบริเวณรอบๆ
แต่การเดินทางมาร่วมฉลองวันชาติของผู้นำสหรัฐฯ ครั้งนี้ มีกำหนดจัดขึ้นในช่วงกระแสต่อต้านการเหยียดสีผิว ซึ่งเกี่ยวเนื่องไปถึงประวัติการสร้างชาติที่มีประเด็นทาสผิวสีด้วยนั้นดำเนินอยู่ ซึ่งส่งผลให้มหาวิทยาลัยและหน่วยงานรัฐท้องถิ่นหลายแห่งต้องเคลื่อนย้ายอนุสาวรีย์และรูปปั้นต่างๆ ที่ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องเตือนใจเกี่ยวกับการกดขี่คนผิวสีให้เป็นทาส ออกไปจากจุดที่เคยตั้ง
ในช่วงที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารให้เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายจัดการกับผู้ที่ทำลายอนุสาวรีย์ที่เป็นทรัพย์สินของรัฐบาล หลังเอ่ยปากต่อต้านความพยายามล้มรูปปั้นของผู้นำสมาพันธรัฐ โดยผู้ประท้วงทั่วประเทศที่รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันผิวสี ระหว่างถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวในเมืองมินนีแอโปลิส เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา
วาเนสซา บีสลีย์ ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชาเกี่ยวกับวาทศาสตร์ของประธานาธิบดีที่มหาวิทยาลัย แวนเดอบิลท์ บอกกับสำนักข่าววีโอเอ ว่า การเลือกจัดงานฉลองวันชาติที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์ในปีนี้ ถือเป็นยุทธศาสตร์ทางการเมือง เพื่อส่งสารไปยังฐานเสียงของปธน.ทรัมป์ ว่าแม้จะมีเสียงต่อต้านวัตถุสิ่งก่อสร้างใดๆ ก็ตาม ตนไม่สนใจและจัดงานให้ยิ่งใหญ่ที่หน้าอนุสาวรีย์ที่ใหญ่ที่สุดนี้ต่อหน้าทุกคนให้ชม
แต่การจัดงานฉลองต่างๆ ของรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในปีนี้อาจไม่คึกคักอย่างที่หวัง เนื่องจากอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขออกมาเรียกร้องให้ชาวอเมริกันอยู่แต่ในเคหสถานในวันที่ 4 กรกฎาคม ซึ่งปกติจะเป็นวันที่ผู้คนออกมานอกบ้านเพื่อร่วมการเฉลิมฉลองต่างๆ
อย่างไรก็ตาม สำหรับงานที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์นั้น คริสติ โนม ผู้ว่าการรัฐเซาท์ดาโคตา และสมาชิกพรรคเดโมแครต กล่าวว่า จะมีการแจกหน้ากากให้กับผู้ร่วมงาน และจะมีการจัดการให้ทุกคนรักษาระยะห่างตลอดการจัดงาน พร้อมย้ำว่า ผู้ที่ต้องการมาร่วมงานควรตัดสินใจด้วยตัวเองว่ารู้สึกสะดวกใจเพียงใดที่จะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของงาน
ไมเคิล คอร์นฟีลด์ รองศาสตราจารย์ด้านการบริหารจัดการการเมืองที่มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ให้ความเห็นกับ วีโอเอ ว่า คำพูดของผู้ว่าการรัฐ โนม สะท้อนจุดยืนที่ให้ความสำคัญเรื่องของเสรีภาพส่วนบุคคล มากกว่าเรื่องความปลอดภัยของผู้คน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ “มีความเสี่ยง” ในเวลานี้
ทั้งนี้ ทีมผู้จัดงานได้แจกจ่ายตั๋วเข้างานจำนวน 7,500 ใบผ่านระบบล็อตเตอรี่ให้กับผู้ที่สนใจตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายนแล้ว
