ประชาชนชาวอเมริกันต่างเฉลิมฉลองวันชาติอเมริกา หรือวันประกาศอิสรภาพ ซึ่งตรงกับวันที่ 4 กรกฎาคม ของทุกปี ด้วยดอกไม้ไฟ ปิกนิก อาหารบาร์บีคิว และขบวนพาเหรด
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในช่วงเช้าว่า "HAPPY 4TH OF JULY" หรือ "สุขสันต์วันที่ 4 ก.ค."
เมื่อวานนี้ ปธน.ทรัมป์ ประกาศว่าจะมีการจัดงาน "Salute to America" นอกเหนือจากการฉลองที่จัดเป็นธรรมเนียมประจำทุกปี เพื่อเน้นย้ำความสำคัญของอำนาจทางการทหารของสหรัฐฯ
โดยงาน "Salute to America" นี้จะประกอบด้วยดอกไม้ไฟสองชุด ชุดแรกจุดขึ้นบริเวณหลังอนุสรณ์สถานประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น และอีกชุดหนึ่งจุดในสวนสาธารณะที่ห่างออกไปจากบริเวณทำเนียบขาวและรัฐสภาราว 3 กิโลเมตร นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังจะกล่าวปราศรัยหน้าอนุสรณ์สถานประธานาธิบดีลินคอล์นด้วย
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า ทำเนียบขาวได้ส่งบัตรเชิญ 5,000 ใบมาให้แก่เจ้าหน้าที่ทหารอเมริกันและครอบครัว โดยรักษาการณ์รัฐมนตรีกลาโหม มาร์ค เอสเปอร์ และเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของกองทัพ ต่างตอบรับคำเชิญของ ปธน.ทรัมป์ เพื่อเข้าร่วมงานฉลอง "Salute to America" แล้ว
ปกติแล้วประธานาธิบดีทรัมป์ และภริยา เมลาเนีย ทรัมป์ ไม่ได้จัดงานฉลองใหญ่โตในวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งบรรดานักวิจารณ์ระบุว่าการจัดงานฉลองอย่างยิ่งใหญ่ โดยใช้รถหุ้มเกราะและเครื่องบินรบเข้าร่วมในปีนี้ เป็นความพยายามทำให้งานฉลอง "วันชาติอเมริกา" กลายเป็นการเดินพาเหรดของทหาร ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า
ด้านหน่วยงานดูแลอุทยานแห่งชาติของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า ต้องใช้งบประมาณเกือบ 2.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 75 ล้านบาท สำหรับงานฉลองในปีนี้ที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากปีก่อนๆ
วันประกาศอิสรภาพปีนี้ถือเป็นการครบรอบปีที่ 243 ที่สหรัฐฯ ประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากอาณานิคมอังกฤษ ผ่านคำประกาศอิสรภาพสหรัฐอเมริกา หรือ Declaration of Independence ที่ถูกประกาศขึ้นในวันที่ 4 กรกฎาคม คริสตศักราช 1776
แต่ละรัฐก็จะมีการจัดงานฉลองที่ต่างกันไป รวมทั้งกฎหมายควบคุมการซื้อขายดอกไม้ไฟที่ไม่เหมือนกันด้วย กล่าวคือ บางรัฐอนุญาตให้ประชาชนสามารถซื้อดอกไม้ไฟบางประเภทไปจุดเล่นเองที่บ้านได้
ในปี 2017 สำนักสำมะโนประชากรรายงานว่า ประชาชน 44% จะชมดอกไม้ไฟ 13% ไปท่องเที่ยว 66% ไปงานเลี้ยงสังสรรค์ 14% ไปชมพาเหรดฉลองวันชาติอเมริกัน 12% ไม่ร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลอง และ 8% เลือกทำกิจกรรมอย่างอื่น