ทางการสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตเจ้าหน้าที่ต่อต้านการสอดแนมของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ผู้แปรพักตร์เป็นสายลับให้กับรัฐบาลอิหร่าน เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ฐานช่วยเหลือรัฐบาลอิหร่านให้มุ่งเป้าไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของรัฐบาลอเมริกัน
อัยการสหรัฐฯในกรุงวอชิงตัน มีคำตัดสินเมื่อวันพุธ ให้นางสาวโมนิกา เอลฟรีด วิตต์ วัย 39 ปี มีความผิดฐานเปิดเผยข้อมูลลับของปฏิบัติการในอิหร่านของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ให้กับรัฐบาลอิหร่าน รวมทั้งช่วยเหลือหน่วยข่าวกรองอิหร่านในการสอดแนมหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ซึ่งเป้าหมายทั้งหมดนั้นเป็นอดีตเพื่อนร่วมงานของเธอ
ตอนนี้ทางการสหรัฐฯ ออกหมายจับ น.ส. โมนิกา ซึ่งคาดว่ายังหลบหนีอยู่ในอิหร่าน
นอกจากนี้ อัยการสหรัฐฯ ยังมีคำตัดสินให้ชายชาวอิหร่านอีก 4 คนมีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด การรุกล้ำเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ และขโมยอัตลักษณ์ของผู้อื่นเพื่อเข้าถึงเป้าหมาย ซึ่งเป็นอดีตเพื่อนร่วมงานของ น.ส. โมนิกา ในหน่วยต่อต้านการสอดแนมของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เมื่อช่วงปี ค.ศ. 2014-2015
ทั้งนี้ น.ส. โมนิกา และชายชาวอิหร่านอีก 4 คน เข้าร่วมองค์กรที่ทำงานในนามของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ใช้บัญชีสื่อสังคมออนไลน์เฟสบุ๊กปลอม เพื่อรวบรวมข่าวกรองและหาแนวร่วม รวมทั้งใส่ซอฟต์แวร์สอดแนมลงไปในระบบคอมพิวเตอร์ และเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ซึ่งทำให้บุคคลเหล่านั้นตกอยู่ในอันตราย