ในช่วงสัปดาห์นี้ มีสื่อและนักวิเคราะห์ต่างชาติหลายรายแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งของประเทศไทยที่กำลังจะมีขึ้นต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ในขณะเดียวกัน รายงานข่าวกล่าวว่า บรรดานักธุรกิจและนักลงทุนหวั่นวิตกว่า ผลการเลือกตั้งและการเมืองของไทย อาจส่งผลกระทบเศรษฐกิจของประเทศได้อีก
ทั้งบทความในหนังสือพิมพ์และนักวิเคราะห์ เรียกนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย น้องสาวของพตท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรมต. ของไทยว่า เป็นผู้ได้รับคะแนนนิยมนำหน้าในขณะนี้ และดำเนินการหาเสียงเลือกตั้งได้อย่างเชี่ยวชาญ
The Washington Post หนังสือพิมพ์ฉบับสำคัญในกรุงวอชิงตัน กล่าวถึงการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า จริงๆแล้วเป็นการออกเสียงแสดงประชามติเกี่ยวกับอดีตนายกรมต. ทักษิณ ชินวัตร มากกว่า และทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายมีชัยชนะ จะมีความพยายามกลับผลการเลือกตั้งด้วยการแทรกแซงของทหารหรือการใช้กลยุทธทางการศาลอย่างที่เคยเป็นมาหรือไม่
The Washington Post กล่าวต่อไปว่า สภาพการณ์ดังกล่าวทำให้วอชิงตันตกอยู่ในสภาพลำบากใจ เพราะแม้สหรัฐสนับสนุนประชาธิปไตย แต่ก็วิตกว่า ผลการเลือกตั้งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศไทยต่อไปอีก นาย Kurt Campbell ผู้ช่วยรมต. กระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออก กล่าวที่กรุงวอชิงตันเมื่อปลายเดือนที่แล้ว เกี่ยวกับสภาพการณ์ในประเทศไทยว่า “เป็นช่วงเวลาที่สลับซับซ้อนมาก”
ในอีกด้านหนึ่ง หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal มีบทความเกี่ยวกับคำกล่าวของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เมื่อเร็วๆนี้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยอ้างถึงความเห็นของนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิจัยประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ที่กล่าวว่า คำกล่าวของผู้บัญชาการทหารบก เป็นการแทรกแซงทางการเมือง และว่าฝ่ายที่ต่อต้านอดีตนายกรมต. ทักษิณ ชินวัตร อาจจะกำลังเตรียมยุทธวิธีต่างๆไว้เพื่อป้องกันมิให้อดีตนักการเมืองผู้นี้เข้าไปมีบทบาทในประเทศไทยได้อีก
Wall Street Journal รายงานไว้ด้วยว่า แนวนโยบายสำคัญอันหนึ่งของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้ คือจะออกกม.นิรโทษกรรมเพื่อให้อดีตนักการเมืองผู้นี้เป็นอิสระและกลับเข้าประเทศได้ และในการให้สัมภาษณ์ที่ Dubai เมื่อเร็วๆนี้ พตท. ทักษิณ ยืนยันความตั้งใจที่จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ ถ้านางสาวยิ่งลักษณ์ชนะการเลือกตั้ง
หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal กล่าวต่อไปว่า ถ้อยแถลงของพลเอกประยุทธ์ น่าจะทำให้นักการทูตและนักลงทุนมีความวิตกกังวลมากขึ้น ถ้านางสาวยิ่งลักษณ์ชนะการเลือกตั้ง และพยายามจะจัดตั้งรัฐบาล แม้ผู้นำของกองทัพบกจะกล่าวว่าจะไม่ก่อรัฐประหาร
แต่บทความในหนังสือพิมพ์ San Francisco Chronicle อ้างคำพูดของศาสตราจารย์ Andrew Walker ของ Australian National University ในกรุงแคนเบอร่า ที่กล่าวว่า “เป็นเรื่องยากที่จะเห็นทหารยอมรับรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ในเมื่อเห็นได้ชัดว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นตัวแทนให้กับทักษิณ”
ส่วนบทความใน Financial Times ให้ความเห็นว่า การสมัครรับเลือกตั้งของนางสาวยิ่งลักษณ์ นักธุรกิจหญิงผู้มีประสบการณ์ทางการเมืองน้อย แต่มุ่งหมายจะให้เข้ารับตำแหน่งนายกรมต. ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้กลับกลายเป็น การออกเสียงแสดงประชามติเกี่ยวกับมรดกตกทอดที่ก่อให้เกิดความแตกแยกของนายทักษิณ
Financial Times กล่าวต่อไปว่า นักลงทุนวิตกกังวลกันแล้วว่า นโยบายประชานิยมที่ใช้จ่ายเงินอย่างไม่อั้นของพรรคเพื่อไทย จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศ ดัชนีราคาหุ้นที่ตลาดหลักทรัพย์ลดลงแล้ว 4.1 % นับตั้งแต่มีการประกาศการเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ค. และความเป็นไปได้ที่ว่าอาจมีการประจันหน้ากันอีก ระหว่างรัฐบาลชุดใหม่กับกองทัพบก ไม่ได้ช่วยผ่อนคลายความหวั่นวิตกให้เลย
