น้องชาย จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีผู้เสียชีวิตระหว่างการจับกุมของตำรวจมินนีแอโปลิส เรียกร้องสภาสหรัฐฯ เร่งปฏิรูประบบตำรวจอเมริกัน เพื่อยุติการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุของผู้บังคับใช้กฏหมาย และความอยุติธรรมระหว่างคนต่างสีผิวในสหรัฐฯ
นายฟิโลนิส ฟลอยด์ วัย 42 ปี น้องชายของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีวัย 46 ปีที่เสียชีวิตระหว่างถูกตำรวจควบคุมตัวในรัฐมินนิโซตา ขึ้นให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการด้านตุลาการของสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น
ใจความตอนหนึ่งระบุว่า เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนที่ต้องเห็นพี่ชายที่เขานับถือและยึดถือเป็นแบบอย่างมาทั้งชีวิตต้องตายไป และได้เห็นว่าเขาร้องขอตำรวจให้ได้พบหน้าแม่ก่อนสิ้นใจ และว่าเขาเหนื่อยกับความเจ็บปวดที่ต้องเห็นคนผิวสีถูกสังหารอย่างไร้เหตุผล เขาจึงต้องมาที่นี่เพื่อขอร้องให้สภาผู้ทรงเกียรติทำให้เหตุการณ์เช่นนี้จบลงเสียที และยุติความเจ็บปวดนี้เสียที
การขึ้นกล่าวของนายฟลอยด์ มีขึ้นระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีวาระการพิจารณาการปฏิรูประบบตำรวจสหรัฐฯ และการผ่านร่างกฏหมายห้ามตำรวจใช้กำลังเกินกว่าเหตุกับประชาชน โดยคาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้
แต่ในระหว่างนี้ รัฐบาลท้องถิ่นในรัฐแคลิฟอร์เนีย เดนเวอร์ โคโลราโด มินนิโซตา และล่าสุดแอริโซนา ได้ผลักดันมาตรการห้ามตำรวจล็อคคอผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหาระหว่างจับกุม หลังการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ เมื่อ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ขณะที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน สั่งโยกงบตำรวจพอร์ตแลนด์ 7 ล้านดอลลาร์ไปมอบให้โครงการช่วยเหลือคนผิวสีในพื้นที่แทน เช่นเดียวกับมหานครนิวยอร์ก และนครลอสแอนเจลิส ที่ผลักดันโครงการลักษณะเดียวกันนี้ในระดับท้องถิ่น