รัฐฟลอริดายังคงมีการระบาดอย่างหนักของโคโรนาไวรัส ซึ่งทำให้โรงพยาบาลเกือบ 50 แห่งทั่วรัฐไม่มีเตียงพอสำหรับผู้ป่วยในแผนกดูแลผู้ป่วยพิเศษ หรือ ICU
เมื่อวันอาทิตย์ มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกกว่า 12,000 คนในฟลอริดา ทำให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมที่รัฐนี้แล้วมากกว่า 350,000 คน และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 5,000 คน ถือเป็นศูนย์กลางการระบาดแห่งใหม่ในอเมริกา
นายกเทศมนตรีนครไมอามี ฟรานซิส ซัวเรซ ประกาศให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากขณะอยู่ในที่สาธารณะ โดยผู้ที่ฝ่าฝืนอาจถูกปรับเงินทันที 50 ดอลลาร์ และหากยังทำผิดติดต่อกันสามครั้ง อาจถูกปรับเงินสูงถึง 500 ดอลลาร์ เริ่มมีผลบังคับใช้วันจันทร์นี้
ด้านนายกเทศมนตรีเมืองไมอามีบีช แดน เกลเบอร์ ประกาศมาตรการเคอร์ฟิวตั้งแต่ 20.00 น. เป็นต้นไป ในบริเวณชายหาดทางใต้ที่เต็มไปด้วยบาร์และไนท์คลับ
ข้ามไปที่นครลอสแอนเจลีส รัฐแคลิฟอร์เนีย ทางตะวันตกของสหรัฐฯ นายกเทศมนตรีเอริค การ์เซ็ตติ กล่าวว่าอาจมีการนำมาตรการขอให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้านกลับมาใช้อีกครั้งเป็นครั้งที่สามนับตั้งแต่เดือนมีนาคม
นายกเทศมนตรีการ์เซ็ตติ กล่าวตำหนิรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ว่า ขาดความเป็นผู้นำในการรับมือการระบาดของโควิด-19 และมัวแต่เล่นการเมืองในขณะที่ประเทศต้องการเอกภาพ ทำให้รัฐต่าง ๆ ต้องพยายามจัดการปัญหาด้วยตัวเอง
นายกเทศมนตรีนครแอลเอผู้นี้ กล่าวกับ CNN ด้วยว่า เรารู้ดีว่าการต่อสู้กับการระบาดครั้งนี้จะต้องยืดเยื้อยาวนาน ดังนั้นหยุดบอกกับประชาขนได้แล้วว่าการระบาดจะจบลงเร็ว ๆ นี้
ทางด้านผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เกวิน นิวซัม กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะใช้มาตรการปิดบาร์และร้านอาหารทั่วรัฐแคลิฟอร์เนียอีกครั้ง หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
ในวันอาทิตย์ สหรัฐฯ รายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 67,574 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 3.8 ล้านคน เสียชีวิตแล้วเกือบ 140,000 คน ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ CDC