บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงิน Fitch ลดเรตติ้งภาพรวมของจีน สู่ระดับ 'ติดลบ' (Negative) จาก 'ทรงตัว' (Stable) ในวันพุธ ตามรายงานของรอยเตอร์
Fitch ให้เหตุผลว่าเป็นการสะท้อนความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับหนี้สาธารณะ ขณะที่เศรษฐกิจจีนเผชิญความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น เมื่อทางการปักกิ่งปรับแผนกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ
การลดระดับเรตติ้งของภาพรวมเศรษฐกิจจีนโดย Fitch คล้องจองกับการทำแบบเดียวกันของ Moody's บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินอีกแห่งหนึ่ง เมื่อเดือนธันวาคม
ในเวลานี้ จีนพยายามที่จะสร้างเเรงส่งให้กับการขยายตัวที่อ่อนเเรงหลังโควิด-19 ด้วยมาตรการการเงินเเละการคลัง
นักวิเคราะห์ แกรีย์ อึง จาก Natixis Asia-Pacific กล่าวว่า "การปรับภาพรวมครั้งนี้ของ Fitch สะท้อนถึงสถานการณ์ที่ท้าทายมากขึ้นเรื่องการเงินภาคสาธารณะ ที่เจอเรื่องหนักสองเรื่องพร้อม ๆ กันคือการขยายตัวที่ช้าลงและหนี้ที่มากขึ้น"
"นี่ไม่ได้หมายความว่าจีนจะผิดชำระหนี้ในเร็ว ๆ นี้ แต่มันเป็นไปได้ ที่จะเกิดความแตกต่างในระดับความสามารถชำระหนี้ใน (ผลิตภัณฑ์การเงินระดับรัฐบาลท้องถิ่น) โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลท้องถิ่นมีสภาพการคลังที่อ่อนแอลง" แกรีย์ อึง กล่าว
Fitch คาดว่าหนี้รัฐบาลกลางและหนี้รัฐบาลท้องถิ่นที่เห็นได้ชัดในประเทศจีน จะเพิ่มขึ้นเป็น 61.3% ของขนาดเศรษฐกิจในปีนี้ จาก 56.1% ปีที่เเล้วและจาก 38.5% เมื่อ 5 ปีก่อน
นอกจากนั้น ทิศทางขาลงที่ยืดเยื้อของภาคอสังหาริมทรัพย์ เป็นปัจจัยถ่วงที่สำคัญต่อหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งต้องเผชิญกับรายได้ที่ลดลงจากการพัฒนาที่ดิน และทำให้การกู้หนี้ในหลายเมืองยากที่จะเกิดขึ้นอย่างยั่งยืน
ในเวลาเดียวกัน Fitch มองว่าการขาดดุลภาครัฐที่มาจากโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานและกิจกรรมกระตุ้นทางการคลังอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากงบประมาณหลัก จะเพิ่มขึ้นเป็น 7.1% ของขนาดเศรษฐกิจจีนในปีนี้ เทียบกับ 5.8% ปีที่เเล้ว
การที่ Fitch ลดระดับความน่าเชื่อถือต่อภาพรวมของจีนในครั้งนี้ มาที่ 'Nagative' เเสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการปรับเรตติ้งลงในระยะกลาง
อย่างไรก็ตาม Fitch ยังคงระดับเรตติ้งความสามารถในการจ่ายหนี้ของจีนอยู่ที่ 'A+' ซึ่งเป็นขั้นที่มีความน่าเชื่อถือสูงสุดอันดับสาม โดยเป็นระดับเดียวกับที่ บริษัทจัดอันดับการเงินขนาดใหญ่อีกสองแห่ง คือ Moody's และ S&P ประเมินให้กับความสามารถในการจ่ายหนี้ของจีน เช่นกัน
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น