ลิ้งค์เชื่อมต่อ

รู้จักแม่-ลูกคู่แรกของโลกที่ขึ้นสู่อวกาศ หลังได้ตั๋วชิงโชคบินกับ ‘เวอร์จิน’


(ซ้าย) อนาสทาเทีย เมเยอร์ ขณะอยู่ในอากาศยานวีเอสเอส ยูนิตี ร่วมกับแม่ของเธอ เคชา ชาแฮฟฟ์ (ขวา) (ที่มา: Virgin Galactic via AP)
(ซ้าย) อนาสทาเทีย เมเยอร์ ขณะอยู่ในอากาศยานวีเอสเอส ยูนิตี ร่วมกับแม่ของเธอ เคชา ชาแฮฟฟ์ (ขวา) (ที่มา: Virgin Galactic via AP)

สองแม่ลูกจากแอนติกาและบาร์บูดา กลายเป็นแม่-ลูก คู่แรกของโลกที่ได้บินขึ้นสู่อวกาศกับโครงการทัวร์อวกาศเชิงพาณิชย์ ‘เวอร์จิน กาแลกติก’ ร่วมกับอดีตนักกีฬาโอลิมปิกที่ซื้อตั๋วรอมา 18 ปี

เคชา ชาแฮฟฟ์ อายุ 46 ปี และอนาสตาเซีย เมเยอร์ อายุ 18 ปี สองแม่ลูกจากประเทศเกาะในทะเลแคริบเบียน เพิ่งได้สัมผัสกับสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงเพียงไม่กี่นาทีที่ขอบอวกาศ ก่อนที่จะกลับมายังพื้นผิวโลกที่ฐานปล่อยยานอวกาศสเปซพอร์ท อเมริกา ในทะเลทรายของรัฐนิว เม็กซิโก เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น

ทั้งสองคนได้รับโอกาสเดินทางบนอากาศยาน วีเอสเอส ยูนิตี ของเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ ‘กาแลกติก 02’ โดยบริษัทเวอร์จิน กาแลกติก ที่มีริชาร์ด แบรนสัน เจ้าของแบรนด์สายการบิน ‘เวอร์จิน’ เป็นเจ้าของ

จรวดยูนิตี (ซ้าย) หลังถูกปล่อยตัวเพื่อไปยังขอบอวกาศ (ที่มา: เอพี)
จรวดยูนิตี (ซ้าย) หลังถูกปล่อยตัวเพื่อไปยังขอบอวกาศ (ที่มา: เอพี)

ในวิดีโอประชาสัมพันธ์ของเวอร์จิน กาแลกติก ระบุว่า ชาแฮฟฟ์ ที่มีอาชีพเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ เข้าร่วมการแข่งขันชิงตั๋วขึ้นสู่อวกาศ 2 ที่นั่ง จึงทำให้เมเยอร์ ซึ่งกำลังศึกษาด้านฟิสิกส์ที่วิทยาลัยในสกอตแลนด์ได้ร่วมเดินทางไปกับเธอด้วย

สองแม่ลูกเล่าว่าพวกเธอมีความฝันว่าอยากจะไปอวกาศมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่สำหรับชาฮาฟผู้เป็นแม่ เธอเล่าว่าการอยู่ในประเทศเกาะเล็ก ๆ ทำให้เธอรู้สึกว่าฝันดังกล่าวคงเป็นฝันที่ไกลเกินไป แต่ในที่สุดฝันของเธอก็เป็นจริง

ในการแถลงข่าวหลังกลับสู่พื้นผิวโลก ชาแฮฟฟ์กล่าวว่า การได้มองโลกจากเบื้องบนเป็นความรู้สึกที่วิเศษที่สุด นอกจากนั้น การได้ลงจอดแบบนิ่ม ๆ แทนที่จะลงจากอวกาศด้วยแคปซูลแล้วให้คนไปรับออกมาจากกลางทะเลทรายนั้นเป็นอะไรที่สะดวกสบายมาก เธอยังกล่าวขอบคุณเพื่อนร่วมประเทศสำหรับการสนับสนุน และชักชวนให้ทุกคนทำตามฝันอันยิ่งใหญ่ของตนเอง

(ซ้ายไปขวา) อนาสตาเซีย เมเยอร์ เคชา ชาแฮฟฟ์ และจอน กูดวิน ร่วมแถลงข่าวหลังเดินทางลงจากอวกาศ (ที่มา: เอพี)
(ซ้ายไปขวา) อนาสตาเซีย เมเยอร์ เคชา ชาแฮฟฟ์ และจอน กูดวิน ร่วมแถลงข่าวหลังเดินทางลงจากอวกาศ (ที่มา: เอพี)

“อย่ากังวลว่าจะไปถึงตรงนั้นยังไง จักรวาลจะเป็นคนตอบปัญหานั้น คุณแค่ก้าวเดินต่อไปเรื่อย ๆ คุณไม่รู้ว่าสิ่งที่รออยู่ข้างหน้าจะเป็นยังไง ก็เหมือนกรณีของฉัน และถ้ามันเกิดขึ้นกับฉันได้ มันก็เกิดขึ้นได้กับคนอื่น ๆ เช่นกัน” ชาแฮฟฟ์กล่าว

เมเยอร์กล่าวถึงประสบการณ์อวกาศครั้งแรกของเธอว่า การได้อยู่บนนั้นทำให้รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาลและทุก ๆ สิ่ง

แม่ลูกคู่นี้ร่วมบินกับจอน กูดวิน อดีตนักกีฬาโอลิมปิกจากอังกฤษวัย 80 ปี ที่ซื้อตั๋วสำหรับเดินทางตั้งแต่ปี 2005 ในราคา 200,000 ดอลลาร์ (ราว 7 ล้านบาท) สำนักข่าวเอพีรายงานว่ามีผู้ถือตั๋วต่อคิวขึ้นสู่อวกาศเหมือนกูดวินราว 800 คน

การขึ้นสู่อวกาศของแม่ลูกคู่นี้สร้างทำสถิติการเป็นครั้งแรกในหลายด้าน ทั้งการเป็นแม่-ลูก คู่แรก เป็นผู้หญิงชาวแคริบเบียนกลุ่มแรกที่ขึ้นสู่อวกาศ เป็นคนอายุน้อยที่สุดที่ได้ขึ้นสู่อวกาศ (เมเยอร์) และเป็นเที่ยวบินที่มีผู้หญิงขึ้นสู่อวกาศเยอะที่สุด นอกจากนั้น กูดวิน ยังเป็นผู้ป่วยพาร์กินสันคนที่สองที่ได้ขึ้นสู่อวกาศอีกด้วย

เอพีรายงานด้วยว่าแม้เวอร์จิน กาแลกติกจะมีเที่ยวบินสู่อวกาศมาตั้งแต่ปี 2018 แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีผู้โดยสารที่ถือตั๋วร่วมบินขึ้นไปด้วย

จากความสำเร็จของเที่ยวบินดังกล่าว ทำให้เวอร์จิน กาแลกติกสามารถเดินหน้าต่อในธุรกิจการท่องเที่ยวอวกาศ ที่มีบลู ออริจิน ของ เจฟฟ์ เบโซส และสเปซ เอ็กซ์ ของอิลอน มัสก์ อยู่ในตลาดมาก่อนหน้าแล้ว

ไมเคิล โคลเกลเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของเวอร์จิน กาแลกติก กล่าวผ่านเอกสารแถลงข่าวว่าทางบริษัทมีแผนที่จะเดินหน้าจัดเที่ยวบินอวกาศเป็นเดือน ๆ ไป

“จอน เคชา และอนา (อนาสตาเซีย) ต่างเป็นตัวแทนความเชื่อพื้นฐานของพวกเราว่าห้วงอวกาศเป็นของทุกคน และเราภูมิใจที่เที่ยวบินวันนี้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนและชุมชนต่าง ๆ ทั่วโลก” โคลเกลเซอร์กล่าว

ข้อมูลเพิ่มเติม: เอพี

XS
SM
MD
LG