ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ ก็ยังไม่พอใจกับทิศทางดอกเบี้ยขาลงของเฟดอีกครั้ง
คณะกรรมการด้านนโยบายดอกเบี้ยของระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FOMC ประกาศกรอบอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ อยู่ที่ 1.75-2% โดยย้ำว่าเฟดจะใช้มาตรการเท่าที่จำเป็นเพื่อทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวต่อไปอย่างยั่งยืน
การหั่นดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% เป็นครั้งที่ 2 ของปีรอบนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งของคณะกรรมการกำหนดนโยบายดอกเบี้ยของเฟด โดยพิจารณาลดดอกเบี้ยลงด้วยคะแนนสนับสนุน 7-3 เสียง และฝ่ายคัดค้าน 2 เสียงแนะให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม ขณะที่มี 1 เสียงที่สนับสนุนให้ลดดอกเบี้ยในสัดส่วน 0.50%
ในแถลงการณ์ของเฟด ระบุว่า การปรับลดดอกเบี้ยรอบล่าสุดนี้ มีขึ้นเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มต้นสงครามการค้ากับจีน ทิศทางการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ภาคการผลิตของอเมริกาที่ซบเซา รวมทั้งการลงทุนและการส่งออกที่เริ่มอ่อนแอลง
การเคลื่อนไหวของเฟดรอบนี้ยังคงสร้างความไม่พอใจให้กับประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งโจมตีบทบาทของเฟด และยังเรียกร้องให้มีการหั่นดอกเบี้ยนโยบายในสัดส่วนที่มากกว่านี้
